Photo Techniques

Through The Tube

เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งสำหรับสิ่งที่ถูกพัฒนามาเป็น “ท่อ” เพื่อเพิ่มความสามารถของสิ่งธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาได้อย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดายในราคาเป็นมิตร เปล่าครับ…ผมไม่ได้จะพาคุณไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่มหานครลอนดอน แต่จะพาคุณลงท่อที่อยู่ด้านหน้ากล้องต่างหากล่ะ

“มาโคร” คือภาพถ่ายประเภทที่ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษเพราะไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ถ่ายได้ คุณจะมีเพียงแค่กล้องก็ยังไม่พอ แต่ต้องมีอุปกรณ์เสริมพิเศษเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งแน่ละครับว่าหนึ่งในนั้นก็ย่อมจะต้องเป็น “เลนส์มาโคร” ที่มีกำลังแยกขยายสูงเพื่อเจาะรายละเอียดของสิ่งเล็กๆ ที่น่ารักบนโลกใบนี้มาตีแผ่ให้มวลมหาประชาชนได้ชมกัน

แต่เดี๋ยวก่อน!…จะพูดว่าต้องมีเลนส์มาโครเท่านั้นก็ยังไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะโลกนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสามารถของเลนส์ธรรมดาๆ ที่ไม่สามารถเข้าใกล้วัตถุได้ให้กลายเป็นเลนส์มาโครไปในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งคุณเองก็สามารถสัมผัสรสชาติของการถ่ายภาพมาโครได้โดยไม่ต้องเหงื่อตกควักสตางค์กันให้หน้ามืด

สิ่งนั้นเรียกว่า “ท่อมาโคร” หรือ “Macro Extension Tube” ครับ มันมีลักษณะเป็นท่อกลวงและปราศจากชิ้นเลนส์ใดๆ มาทำหน้าที่ในการยืดระยะห่างระหว่างกล้องและเลนส์ให้ไกลออกไปจากปกติ ส่งผลให้เลนส์ตัวนั้นๆ มีอัตราขยายวัตถุที่สูงขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ !

pt113_01

Canon EOS 70D, Lens EF 40mm f/2.8 STM, 1/160 sec., f/13, ISO-100, Metering Mode : Spot, WB Auto, Macro Extension Tube

หน้าตาของท่อมาโครและรายละเอียดส่วนลึกของมันผมจะไม่ขอพูดถึง เพราะคุณสามารถหารายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมได้โดยการเสิร์ชหาคำว่า “ท่อมาโคร” เพียงแค่นี้ข้อมูลมหาศาลก็จะหลั่งไหลเข้ามาหาคุณจนแทบอ่านไม่หวาดไม่ไหว

แต่ที่ผมจะบอกกับคุณก็คือเรื่องในบางแง่มุม คุณเองก็คงจะสงสัยอยู่บ้างว่าท่อที่ดูหน้าตาธรรมดามากๆ แทบไม่มีอะไรเลยแบบนี้มันจะได้ภาพออกมาเป็นยังไง? สมควรแก่การซื้อหามาใช้หรือเปล่า?

ผมก็จะบอกคุณว่า ภาพมาโครที่คุณเห็นในคอลัมน์นี้ทั้งหมดก็ได้มาจากการต่อท่อนี้เข้ากับเลนส์พื้นๆ ไปจนถึงเลนส์มาโครแท้นี่แหละ

ท่อมาโครราคาไม่แพง ช่วยแปลงร่างเลนส์ธรรมดาของเราให้เป็นเลนส์มาโครได้นี้มันช่างน่าอัศจรรย์ แล้วอย่างนี้เราจะไปซื้อเลนส์มาโครแพงๆ มาใช้ทำไม? ขอตอบว่าท่อมาโครที่แสนดีก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย ด้วยความสามารถในการยืดระยะโฟกัสของมันจะช่วยให้เข้าใกล้วัตถุได้มากกว่าเดิมก็จริง แต่ในขณะเดียวกันมันก็จะทำให้เลนส์ตัวนั้นไม่สามารถโฟกัสได้ในระยะที่ไกลออกไปอย่างสิ้นเชิง หรือพูดกว้างๆ อีกอย่างก็คือ จะสูญเสียการโฟกัสในระยะ Infinity ไป

ประมาณว่ากำลังถ่ายมาโครระยะจ่อประชิดอยู่ดีๆ เห็นอะไรอยู่ไกลๆ แล้วจะยกกล้องขึ้นถ่ายนั้นทำไม่ได้เสียแล้วเพราะมันไม่สามารถโฟกัสได้ครับ ต่างจากเลนส์มาโครแท้ๆ ที่จะเป็นระยะใดมันก็จะโฟกัสได้เสมอ จะใกล้จะไกลคุณก็สามารถถ่ายภาพได้ไม่พลาดทั้งนั้น

แต่อย่าเพิ่งตกใจ ที่ผมบอกว่าสูญเสียการโฟกัสระยะไกลไปอย่างสิ้นเชิงนั้นหมายถึงในระหว่างที่ต่อท่อมาโครอยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าเอามาต่อท่อปุ๊บเลนส์ตัวนั้นจะกลายร่างตลอดกาลไปเลย ไม่ใช่ๆ

สิ่งที่น่าคิดก็คือ มันจะเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านที่ยังไม่แน่ใจอนาคตตัวเองสักเท่าไหร่นักว่าจะชื่นชอบการถ่ายภาพมาโครจริงๆ หรือเปล่า? เพราะการถ่ายภาพมาโครแบบเอาจริงเอาจังนั้นต้องขอบอกว่าไม่ได้สะดวกสบายสวยหล่อเท่ตรงไหนเลย (แถมท่าทางยังดูไม่ค่อยเจริญตา) หนำซ้ำยังต้องลำบากลำบนก้มๆ เงยๆ เข้ารกเข้าพงตะลุยหาตัวแบบเหมือนคนบ้าที่ไปเดินท่อมๆ ส่องหาตัวแบบโดยที่ชาวบ้านทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจ นี่ยังไม่นับความเสี่ยงต่อการโดนแมลงสัตว์กัดต่อยให้ชอกช้ำอีกต่างหาก

การลงทุนเลนส์มาโครระดับเกินหมื่นจึงยังไม่ใช่อะไรที่คุณอยากจะเสี่ยงมากนัก แต่ถ้าขอแค่ลองชิมลางให้ได้รู้รสสักหน่อยก็จัดหาท่อมาโครราคาค่าตัวแถวๆ พันสองพันบาทมาลองกับเลนส์ที่เรามีดูก่อน จะเลนส์คิท 18-55mm นั่นก็ยังไหว สามารถแปลงร่างมันให้ถ่ายภาพมาโครได้ด้วยเหมือนกัน

ลองแค่ไม่กี่ครั้งหรอกครับคุณก็จะเข้าใจรสชาติของชาวมาโครทันที ถ้าหากว่าพิสูจน์ทราบแล้วว่านี่ไม่ใช่แนวทางที่เราปลื้ม อย่างมากก็เจ็บตัวไปแค่พันสองพันหรือเอาไปปล่อยขายต่อก็ยังพอได้ทุนกลับมาบ้าง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีคนมองหาอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะเวลาที่มันขาดตลาดนั้นแทบว่าจะแย่งกันราวกับแจกฟรี หรือถ้าลองแล้วปรา-กฏว่านี่แหละใช่เลยคุณก็สามารถหาเลนส์มาโครแท้ๆ มาเข้าประจำการแล้วก็ใช้งานร่วมกับท่อมาโครนี้เพื่อเพิ่มกำลังขยายให้มันได้อีกต่างหาก

…จัดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

pt113_02

ภาพนี้ต่อร่วมกับเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ที่ระยะโฟกัส 300mm ซึ่งใช้งานยากพอสมควรเนื่องจากเป็นระยะโฟกัสไกล ภาพจึงยังคงสั่นไหวให้เห็น : Canon EOS 70D, Lens Tamron SP 70-300mm f/4-5.6 Di VC USD, 1/160mm, f/5.6, ISO-125, Macro Extension Tube


สู่ขอท่อมาโคร

pt113_04

“ชันโรง” ขี้ระแวงตัวเล็กกว่าหัวไม้ขีดไฟ ก็ยังถ่ายเห็นรายละเอียดหน้าตาอันหล่อเหลาได้ : Canon EOS 70D, Lens EF 40mm f/2.8 STM, 1/160 sec., f/18, ISO-400, Macro Extension Tube

สมมุติว่าตอนนี้คุณเริ่มหลงคารมของผมจนอยากจะออกไปจัดหาท่อมาโครมาลองเสียเดี๋ยวนี้ ผมก็จะเหยียบเบรคของคุณเอาไว้เพื่อบอกให้ใจเย็นๆ แล้วฟังเรื่องต่อไปนี้ให้จบก่อนที่จะออกไปเสียเงินฟรี

แต่ก่อนร่อนชะไรนั้นท่อมาโครเป็นสิ่งที่หายากรองลงมาจากเหล็กไหลแท้ (หายากจริงๆ) เพราะไม่ค่อยมีคนนิยมใช้งานสักเท่าไหร่ จนในช่วงหลังมานี้ที่กล้องดิจิตอลบูมสุดๆ จึงมีผู้ผลิตออกมามากขึ้นและมีการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้นด้วย จากท่อกลวงๆ ธรรมดาก็มีขั้วสัญญาณไฟฟ้าส่งไปหาเลนส์ได้ด้วย…มันมีเอาไว้ทำไม?

ขั้วสัญญาณที่ว่านั้นจะทำให้กล้องยังคงส่งคำสั่งในการจับโฟกัสอัตโนมัติและบีบรูรับแสงไปที่เลนส์ได้ครับ เดิมทีนั้นเราจะต้องหมุนปรับรูรับแสงที่ตัวเลนส์มันก็เลยไม่ใช่สิ่งจำเป็น จนกระทั่งระบบอัตโนมัติเข้ามามีอิทธิพลเต็มที่ระบบการหมุนปรับรูรับแสงบนเลนส์จึงหายไป เลนส์อัตโนมัติทั้งหลายจึงรับคำสั่งในการเคลื่อนชิ้นเลนส์โฟกัสและบีบรูรับแสงจากตัวกล้องเท่านั้น

ท่อมาโครเคยทำหน้าที่เพียงยืดระยะอย่างเดียวก็ต้องพัฒนาให้ตัวมันเองมีขั้วสัญญาณเพื่อส่งต่อคำสั่งเหล่านี้ไปยังเลนส์ได้ด้วย ดังนั้นเมื่อคุณออกไปซื้อหาท่อมาโครก็จงบอกคนขายด้วยว่าต้องการท่อที่มีขั้วสัญญาณดังว่านี้ ไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะโฟกัสอัตโนมัติและบีบรูรับแสงไม่ได้

เว้นแต่ว่าคุณใช้งานร่วมกับเลนส์ชนิดที่เราเรียกกันว่า “เลนส์มือหมุน” ที่ยังต้องหมุนรูรับแสงเอาเอง

แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ก็จงบอกพ่อค้าแม่ขายไปตามนี้เถิด เพราะคุณคงจะใช้งานร่วมกับเลนส์อัตโนมัติแน่ๆ

pt113_08

ตั๊กแตนสีเขียวสดกับท่อมาโคร สีสันความคมชัดยังคงดูน่าสนใจ : Canon EOS 6D, Lens EF 40mm f/2.8 STM, 1/180 sec., f/16, ISO-200, Macro Extension Tube

pt113_09

แมงมุมกระโดดสีเขียวเรืองแสง ตัวเล็กโฟกัสยาก กว่าจะได้ภาพนี้ก็เล่นซะเหนื่อยทั้งคนทั้งแมงมุม : Canon EOS 6D, Lens EF 40mm f/2.8 STM, 1/125 sec., f/16, ISO-200, Macro Extension Tube


ใช้เลนส์อะไรลงท่อ?

pt113_07

“แมลงวันหัวบุบ” ขณะกำลังเปิบพิสดารตามธรรมชาติของมัน: Canon EOS 6D, Lens Tamron SP90mm f/2.8 Di VC USD Macro, 1/125 sec., f/13, ISO-200, Macro Extension Tube

อย่างที่บอกไปว่าเราสามารถนำท่อมาโครมาใช้กับเลนส์อะไรก็ได้ จะเลนส์คิท 18-55mm ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ที่ผมอยากจะแนะนำก็คือใช้มันร่วมกับเลนส์ระยะกลางตัวแบนๆ ที่ไม่ใช่เลนส์ซูม เช่นที่ผมใช้งานอยู่เป็นประจำก็คือเลนส์ EF 40mm f/2.8 STM ตัวแบนนี่แหละครับ มันให้ผลดีมากๆ เพราะนอกจากคุณภาพความคมชัดของภาพจะดีกว่าเลนส์ซูมและราคาไม่แพงมากแล้วมันก็ยังมีขนาดเล็ก เมื่อต่อเข้ากับท่อแล้วก็ไม่ได้ยาวจนน่าวิตกแต่อย่างใด แถมด้วยความที่เป็น f/2.8 เวลาที่เราเล็งโฟกัสในช่องมองภาพก็ยังสว่างโร่ได้ด้วยอีกต่างหาก คุณจะใช้ร่วมกับเลนส์ 50mm f/1.8 อันเป็นที่นิยมนั่นก็ได้ครับ ทั้งถูกและดีมีทุกค่าย กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ข้อดีของเลนส์ตัวนี้ไปเลย

ที่ผมชอบมากก็คือ ท่อมาโครน้ำหนักจะเบามาก เลนส์ 40mm ก็ตัวเล็กนิดเดียว เวลาที่พกไปไหนมาไหนก็ใช้พื้นที่ไม่มาก ได้ทั้งเลนส์ Normal ถ่ายภาพทั่วไปสบายๆ เวลาที่จะถ่ายมาโครก็เอาท่อสวมเข้าไปก็กลายเป็นเลนส์มาโครพร้อมใช้งานแล้ว เสียก็แต่ว่ามันไม่ค่อยจะสะดวกเหมือนเลนส์มาโครแท้ๆ นั่นแหละครับ

นี่คืออุปกรณ์อีกชนิดที่ผมอยากจะแนะนำให้คุณหามาติดตัวเอาไว้ต่อให้คุณมีเลนส์มาโครอยู่แล้วก็ตาม (เพราะมันยิ่งเพิ่มกำลังขยายให้เลนส์มาโครได้อีก) คุณอาจจะลองกับมันจนแน่ใจแล้วค่อยขยับขยายไปหาเลนส์มาโครก็ได้ หรือจะหยุดอยู่แค่ที่มันก็แล้วแต่ ที่สำคัญคือเสี่ยงไม่มากและคุ้มค่าเพราะราคาไม่ค่อยแรงสักเท่าไหร่ แต่ช่วงฤดูมาโครเช่นนี้อาจจะหายากกว่าปกติสักนิด ราคาอาจจะแรงขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อย ก็คงจะต้องลองมองๆ หาดู เจอที่ไหนก็อย่าได้พลาดเพราะของดีน่าจะมีอยู่ไม่มาก

…ถือว่าซ้อมเอาไว้ก่อน เพราะพอได้มาแล้วก็ต้องไปเดินเสาะหาตัวแบบเจ๋งๆ ในป่าในดงเข้าพงหญ้าซึ่งยากกว่านี้อีกเยอะเลยเชียว กรรมของคนอยากตะลุยโลกจิ๋วซะจริงเลย…ฮา..

pt113_10

“แมงมุมกระโดดบนมุ้งลวด” ถูกแล้วครับ ที่เห็นเป็นตารางบนพื้นนั่นก็คือมุ้งลวดตามบ้านเรานี่เอง ดูเอาเถอะว่าได้กำลังแยกขยายสูงขนาดไหน นี่เป็นภาพจากเลนส์คิท 18-55mm เสียด้วย : Canon EOS 100D, Lens EF-S 18-55mm f/3.5-5.6 IS STM, 1/250 sec., f/29, ISO-200, Macro Extension Tube

pt113_06

ใช้งานร่วมกับเลนส์มาโครเพื่อเพิ่มกำลังแยกขยายให้สูงขึ้นจาก 1:1 ไปเป็นประมาณ 3:1 : Canon EOS 100D, Lens Tamron SP60mm f/2 Di II LD [IF] Macro, 1/160 sec., f/8, ISO-200, Macro Extension Tube


ชนิดของท่อมาโคร

pt113_05

มดแดงตัวนี้กำลังถูกยกลอยเป็นมื้อค่ำของแมงมุมที่พ้นระยะโฟกัสอยู่ด้านหลัง : Canon EOS 70D, Lens EF 40mm f/2.8 STM, 1/160 sec., f/11, ISO-100,

ท่อมาโครแบ่งกว้างๆ ได้สามแบบครับ คือแบบท่อเปล่า ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ราคาไม่เกินหนึ่งพันบาท ต่อมาคือแบบมีขั้วสัญญาณแต่เป็นเม้าท์วัสดุพลาสติก ราคาก็จะสูงขึ้นมาอีกนิด และแบบมีขั้วสัญญาณพร้อมเม้าท์แบบโลหะ ก็จะราคาสูงขึ้นมาอีก บางยี่ห้อค่าตัวก็จะแซงเลนส์พื้นฐานบางตัวไปเลย อันนี้ก็อยู่ที่เลือกครับ แต่อย่าเห็นแก่ความถูกของชนิดท่อเปล่าแล้วคว้ามาเพราะคิดว่ามันเหมือนกันล่ะ

เมื่อถ่ายภาพมาโคร คุณจำเป็นต้องบีบรูรับแสงให้แคบลง อาจจะอยู่ที่ f/13 หรือ f/16 จึงจะได้ระยะโฟกัสที่ครอบคลุมนายแบบตัวจิ๋วของเรามากพอ แต่ถ้าใช้รูรับแสงกว้างมันก็จะชัดอยู่แค่ระยะแลคโตบาซิลัสดิ้นตาย ถ่ายยากชะมัดเพราะมีระยะชัดติ๊ดเดียวเอง

เลนส์อัตโนมัติจะมีธรรมชาติที่เปิดรูรับแสงกว้างสุดเอาไว้เพื่อให้เราเห็นภาพในช่องมองภาพชัดเจน โดยที่มันจะบีบรูรับแสงให้เล็กตามค่าที่กำหนดเอาไว้ในเสี้ยววินาทีที่เราลั่นชัตเตอร์ก่อนจะเด้งกลับไปเป็นกว้างสุดเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าคุณสั่งบีบรูรับแสงไม่ได้ปัญหาก็จะเกิดขึ้นแน่ๆ เลนส์ของคุณก็จะเบิกตากว้างเอาไว้ชั่วนาตาปี ชัดตื้นกันไปตลอดกาลแบบไม่ยอมญาติดีกับภาพมาโครเลย ซึ่งมันก็จะเกิดจากท่อมาโครแบบไม่มีขั้วสัญญาณไฟฟ้าไปสั่งการมันนี่แหละครับ

pt113_03

คราบจั๊กจั่นที่วางเอาไว้ในช่องฟรีซของตู้เย็น ขยายจนเห็นรายละเอียดของน้ำแข็งเลยทีเดียว : Canon EOS 6D, Lens EF 40mm f/2.8 STM, 1/180 sec., f/9.5, ISO-50, Macro Extension Tube

เรื่อง/ภาพ : ปิยะฉัตร แกหลง