Camera Reviews

Reviews : Sony A9

นี่คือการเปิดตัวกล้อง Mirrorless ระดับโปรที่ก้าวเข้ามาเทียบชั้นกับกล้อง DSLR ในระดับมืออาชีพเป็นครั้งแรก  ด้วยกล้องที่มาพร้อมเทคโนโลยีลํ้าหน้าในทุกๆ ด้าน  อัดแน่นในขนาดที่เล็กกว่าและเบากว่ากล้องโปรเท่าตัว รองรับการทำงานระดับมืออาชีพในการถ่ายภาพกีฬาและภาพแอคชั่นทุกรูปแบบ โดยใช้รหัสว่า A9

จุดเด่นของ Sony A9

  • Exmor RS Stacked CMOS 24.2 ล้านพิกเซล
  • ไม่พลาดทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ด้วยความเร็ว 20 เฟรม/วินาที
  • ไม่พลาดการติดตามภาพด้วย Blackout-free
  • การคำนวณระบบ AF/AE
  • เงียบไร้ความสั่นสะเทือน
  • สุดยอดระบบโฟกัส
  • ระบบลดการสั่นไหวของภาพ 5 แกนในตัวกล้อง
  • ช่องมองภาพสำหรับมืออาชีพ
  • ความคล่องตัวในการใช้งาน
  • รองรับการทำงานระดับโปร
  • รองรับ work flow ระดับโปร
  • ระบบวิดีโอ 4K คุณภาพสูง
  • ระบบเลนส์คุณภาพสูง

ประสิทธิภาพ และการออกแบบ

Exmor RS Stacked CMOS 24.2 ล้านพิกเซล
A9 ออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ทั้งความเร็วในการทำงานและคุณภาพไฟล์ โซนี่จึงได้พัฒนาเซ็นเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ Exmor RS CMOS ที่มีโครงสร้างแบบ Stacked ซึ่งโซนี่ได้ใช้กับ RX100V  แต่นั่นเป็นเซ็นเซอร์รับภาพขนาดเพียง 1 นิ้ว เมื่อจะขยับมาเป็นเซ็นเซอร์รับภาพขนาดฟูลเฟรม จึงต้องมีการออกแบบพัฒนากันใหม่หมด เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Stacked CMOS วางโครงสร้างในแต่ละพิกเซลใหม่ โดยย้ายชั้นของโฟโต้ใดโอดขึ้นมาชิดกับเลนส์ ขยับชั้นของวงจรลงไปด้านล่าง เปลี่ยนการเดินสายวงจรเป็นทองแดง เพื่อความรวดเร็วในการส่งสัญญาณ โครงสร้างจะคล้ายกับเซ็นเซอร์แบบ Back-illuminated (BSI)  แต่แตกต่างตรงที่เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Stacked จะมีการติดตั้ง DRAM ไว้ที่ส่วนล่างเพื่อการจัดการกับการอ่านสัญญาณขาออกให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผลที่ได้คือ ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลภาพที่รวดเร็วกว่าเดิมมาก ทำให้กล้องมีความเร็วในการทำงานสูง ทั้งความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง การทำงานของระบบโฟกัส และการแสดงภาพในช่องมองและจอ LCD ที่ปราศจาก Blackout Time และภาพยังมีสัญญาณรบกวนตํ่าอีกด้วย

A9 ใช้ชิปประมวลผลภาพ BIONZ X ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูง และให้ภาพที่มีคุณภาพสูง ด้วยระบบการจัดการกับสัญญาณรบกวนแบบเฉพาะพื้นที่ และเทคโนโลยีการถ่ายทอดรายละเอียดที่เยี่ยมยอด ทำให้ภาพที่ได้มีรายละเอียดสูง สมจริง เป็นธรรมชาติ และมีสัญญาณรบกวนตํ่า แม้ใช้ความไวแสงสูง โดยสามารถตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100-51200  ขยายได้ตั้งแต่ ISO 50-204800 และคุณภาพของภาพจะไม่ลดลงแม้ว่าจะถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุด 20 ภาพ/วินาที

A9 รองรับระบบไฟล์ RAW แบบ 14 บิต ซึ่งจะให้ภาพที่มีรายละเอียดสูง ให้การลดหลั่นของสีที่ละเอียดนุ่มนวล มีใดนามิคเรนจ์กว้าง  โดยโซนี่พัฒนาการประมวลผล ภาค Front and LSI ใหม่ ให้มีความเร็วสูง มีการทำงานแบบ 16 บิต จึงทำให้ข้อมูลภาพ RAW ที่ผ่าน Front and LSI เป็นไฟล์ 14 บิตที่คุณภาพสูง

A9 กับการเป็นผู้เปลี่ยนเกม
ในการถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่นที่รวดเร็วนั้น ต้องยอมรับว่า กล้อง DSLR ระดับโปรเป็นกล้องที่ช่างภาพมืออาชีพเลือกใช้ เพราะมีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูง ความเร็วในการโฟกัสติดตามวัตถุที่ดีมาก ซึ่งกล้องมิเรอร์เลสแทบทั้งหมดยังไปไม่ได้ถึงจุดที่ช่างภาพกีฬาต้องการ แต่โซนี่เคลมว่า A9 เป็นกล้องมิเรอร์เลสที่จะเปลี่ยนเกมของกล้องถ่ายภาพกีฬาใหม่ ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่เยี่ยมยอดในทุกๆ ด้าน  โดยโซนี่ได้เปรียบเทียบสมรรถนะแต่ละด้านของ A9 กับกล้อง DSLR ระดับโปรดังนี้

• การลดเวลาการหายไปของภาพในช่องมอง (Blackout Time) กล้อง DSLR ระดับโปรจะมีช่องเวลาการหายไปของภาพในช่องมองน้อยมาก ด้วยการพัฒนาระบบการยกตัวของกระจกสะท้อนภาพที่รวดเร็ว ทำให้การเคลื่อนกล้องติดตามซับเจกต์ทำได้ง่าย ในขณะที่ A9 จะไม่มีการหายไปของภาพในช่องมอง ช่างภาพจะเห็นภาพอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา การเคลื่อนกล้องติดตามซับเจกต์จึงทำได้ง่าย

• ชัตเตอร์ที่ทำงานรวดเร็ว ความสั่นสะเทือนน้อย  กล้อง DSLR ระดับโปรใช้ชุดชัตเตอร์และชุดกระจกสะท้อนภาพที่ออกแบบพิเศษให้มีความสั่นสะเทือนน้อย ทำงานได้รวดเร็ว ในขณะที่ A9 ใช้ชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เร็ว ไม่มีความสั่นสะเทือน และไร้เสียง

• ระบบโฟกัสต่อเนื่องที่แม่นยำรวดเร็ว  กล้อง DSLR ระดับโปรจะใช้ระบบโฟกัสแบบเฟสดีเทคชั่น ที่ทำงานได้รวดเร็ว ในการโฟกัสติดตามวัตถุด้วยการคาดคะเนโฟกัสล่วงหน้า  ส่วน A9 ใช้ระบบโฟกัสเฟสดีเทคชั่น ทำงานแบบ Hybrid AF ในการโฟกัสติดตามวัตถุโดยทุกภาพจะผ่านการตรวจสอบความถูกต้องของการโฟกัส โดยไม่ใช้วิธีการคาดคะเนโฟกัสล่วงหน้า

• การมองภาพที่ชัดเจน  กล้อง DSLR ใช้ปริซึมขนาดใหญ่กับเลนส์ตาคุณภาพสูง ให้ภาพในช่องมองที่ใหญ่ เต็มตา มองภาพผ่านเลนส์โดยตรง ในขณะที่ A9 ใช้ช่องมอง EVF  ที่มีขนาดภาพใหญ่ใกล้เคียงกัน  ความสว่างสูง  เห็นภาพตรงกับภาพที่ได้ทั้งความสว่าง สีสันและเอฟเฟกต์ และยังให้ความคมชัดสูงมาก

ไม่พลาดทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ด้วยความเร็ว 20 เฟรม/วินาที  
A9 ออกแบบมาเพิ่มให้ช่างภาพกีฬา ช่างภาพข่าว หรือช่างภาพแนว Street  เก็บทุกอิริยาบถของการเคลื่อนไหว ด้วยเซ็นเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Stacked การอ่านข้อมูลออก จึงมีความเร็วสูงกว่า 7II ถึง 20 เท่า  โดยอาศัยหน่วยเก็บข้อมูล  DRAM  ในชั้นล่างของเซ็นเซอร์ทำการเก็บข้อมูลและถ่ายโอน  ทำให้รองรับกับการบันทึกภาพความเร็วสูงได้ต่อเนื่องอย่างเหนือชั้นกว่ากล้องรุ่นใดๆ  เพื่อเลือกจังหวะที่ดีที่สุดไว้ใช้งาน โดยมั่นใจได้ว่าด้วยความเร็ว 20 ภาพ/วินาที   คุณจะไม่พลาดทุกสเตปของการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว  ซึ่งเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างงานที่ยอดเยี่ยมของมืออาชีพโดย A9 สามารถบันทึกภาพต่อเนื่องความเร็ว 20 เฟรม/วินาที  พร้อมการทำงานของระบบออโตโฟกัสแบบต่อเนื่อง  โดยบันทึกต่อเนื่องได้ถึง 241 ภาพ (ไฟล์ RAW แบบบีบอัด) และ 362 ภาพ (JPEG ความละเอียดสูงสุด) ทำให้ช่างภาพไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญ

ไม่พลาดการติดตามภาพด้วย Blackout-free
A9 คือกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกโลกที่ระบุว่า ปราศจากการหายไปของภาพในช่องมอง (Blackout time) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กล้องมิเรอร์เลสใช้ถ่ายภาพกีฬาได้ค่อนข้างยาก  เพราะช่างภาพจะเคลื่อนกล้องตามซับเจกต์ไม่ทัน  แต่ 9 เป็นกล้องที่ไม่มีการหายไปของภาพ  ภาพที่เห็นจากช่องมองจะชัดเจนตลอดเวลา  แม้ถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง 20 ภาพ/วินาที (ในขณะที่กล้อง DSLR ระดับโปรก็ยังมี Blackout time ด้วย)  ด้วยการรีเฟรชภาพในช่องมองด้วยความเร็วสูง  โดยมีความล่าช้าในการแสดงภาพน้อยมากๆ  ช่างภาพจึงติดตามซับเจกต์ได้ต่อเนื่อง  วางเฟรมได้แม่นยำ จัดองค์ประกอบของภาพได้ง่ายแม้เป็นการถ่ายภาพกีฬาที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว

การคำนวณระบบ AF/AE 
ด้วยความเร็ว 60 ภาพ/วินาที ในระหว่างการบันทึกภาพต่อเนื่อง 20 ภาพ/วินาที  ช่างภาพไม่ต้องพะวงกับประสิทธิภาพในการโฟกัสและการวัดแสง  เพราะ A9 ใช้การทำงานด้วยความเร็วที่สูงถึง 60 ภาพ/วินาที ในการโฟกัสแบบเฟรมต่อเฟรม และวัดแสงแบบเฟรมต่อเฟรม  ซึ่งจะเห็นได้ว่าเร็วกว่าการบันทึกถึง 3 เท่า  จึงมั่นใจได้ว่าทุกช็อตกล้องจะโฟกัสแบบต่อเนื่องให้  ไม่ใช้การคาดคะเนโฟกัสล่วงหน้า และทุกช็อตจะวัดแสงใหม่ หากแสงเปลี่ยนแปลงกะทันหันขณะถ่ายต่อเนื่อง แต่ละเฟรมก็จะยังได้รับแสงถูกต้อง

เงียบไร้ความสั่นสะเทือน 
ด้วยการใช้ชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์  ทำให้ A9  สามารถทำงานในแบบไร้เสียงรบกวน และไร้ความสั่นสะเทือนได้  จึงช่วยลดอาการเบลอของภาพจากการทำงานของชัตเตอร์ได้ นอกจากนั้นยังมีความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 1/32000 วินาที  ทำให้สามารถบันทึกภาพด้วยรูรับแสงกว้างในสภาพแสงแรงได้ เพื่อสร้างสรรรค์ภาพให้โดดเด่นโดยไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์ ND  และที่สำคัญคือด้วยเทคโนโลยี Stacked ทำให้การอ่านสัญญาณข้อมูลออกเร็วมาก  ภาพจึงไม่เกิดดิสทอร์ชัน (ทำให้วัตถุมีรูปทรงผิดเพี้ยนเหมือนชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป)

สุดยอดระบบโฟกัส 
เพื่อให้รองรับการถ่ายภาพกีฬาและภาพแอคชั่นทุกรูปแบบ A9 จึงพัฒนาระบบออโตโฟกัสใหม่ให้มีประสิทธิภาพในระดับโปรอย่างแท้จริง  ด้วยระบบ 4D Focus ที่ใช้ระบบเฟสดีเทคชั่น  มีจุดโฟกัสมากถึง 693 จุด ครอบคลุมพื้นที่ภาพถึง 93% ของเฟรมภาพ  ทำให้กล้องมีประสิทธิภาพในการ Tracking สูงมาก  แม้ซับเจกต์จะไม่ได้อยู่กลางภาพ  ด้วยการทำงานแบบ Fast Hybrid ทำให้การโฟกัสติดตามวัตถุมีประสิทธิภาพสูง  โดยการผสานการทำงานของระบบเฟสดีเทคชั่นกับระบบตรวจจับคอนทราสต์จะมีความเร็วสูงกว่ารุ่น 7R II ถึง 25% ทำได้ไม่พลาดแม้ซับเจกต์จะเคลื่อนไหวรวดเร็วมากก็ตาม  และด้วยการคำนวณการโฟกัส 60 ภาพ/วินาที  ทุกช็อตต่อเนื่องจึงมีโฟกัสถูกต้อง

นอกจากนั้น A9 ยังมาพร้อมระบบที่ช่วยให้การโฟกัสมีประสิทธิภาพสูง เช่น EYE AF ที่กล้องจะปรับโฟกัสที่ตาของตัวแบบให้อัตโนมัติ  ซึ่งจะใช้ประโยชน์ได้มากเมื่อตัวแบบเคลื่อนไหวแล้วใช้ระบบโฟกัสต่อเนื่อง ระบบตรวจจับใบหน้าก็ปรับปรุงให้มีความแม่นยำแม้ตัวแบบไม่ได้หันหน้าเข้าหากล้อง  A9 มีระบบ Expand Flexible Spot ที่เจาะจงพื้นที่การโฟกัสได้แม่นยำ  โดยเมื่อจุดโฟกัสหลักไม่สามารถโฟกัสได้  อีก 8 จุดที่ล้อมรอบจะทำหน้าที่โฟกัสให้แทน ทำให้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพกีฬา ที่เจาะจงพื้นที่โฟกัส และระบบออโตโฟกัสของ A9 สามารถทำงานในสภาพแสงน้อยได้ถึง EV-3 ทำให้สามารถใช้งานกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในสภาพแสงน้อยได้ดี

ช่องมองภาพสำหรับมืออาชีพ 
เพื่อให้รองรับการถ่ายภาพแอคชั่นที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว ช่องภาพของ A9 จึงได้พัฒนาขึ้นใหม่ โดยให้ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 3.68 ล้านจุดแบบ Quad-VGA OLED Tru-finder ให้ภาพคมกริบราวกับช่องมองภาพแบบออพติคัลระดับโปร ขนาดภาพใหญ่ด้วยอัตราขยายช่องมอง 0.78X ให้ภาพใสกระจ่างจากขอบถึงขอบ  และด้วยการใช้เลนส์ตาคุณภาพสูง ZEISS ทำให้ภาพใสเคลียร์ เห็นภาพชัดเจน ช่องมองภาพมีเฟรมเรทสูง 120 fps การเคลื่อนกล้องอย่างรวดเร็ว ภาพที่เห็นก็ยังดูนุ่มนวล ไม่กระตุก ทำให้การมองภาพและติดตามภาพทำได้ง่าย  ช่องมองภาพมีการซีลป้องกันฝุ่นและละอองนํ้า ป้องกันหยดนํ้าเกาะ ทำให้การมองภาพทำได้ดีในทุกสถานการณ์

ระบบลดการสั่นไหวของภาพ 5 แกนในตัวกล้อง 
A9 ออกแบบระบบลดการสั่นไหวของภาพในตัวกล้องแบบ 5 แกนใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น  โดยสามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 5.0 สตอป และลดการสั่นไหวได้ 5 แกน ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบของการสั่นไหว และกล้องสามารถแสดงผลจากการทำงานให้ปรากฎบนจอ LCD และในช่องมอง EVF จึงจัดองค์ประกอบภาพได้ง่ายเพราะภาพนิ่งขึ้นนอกจากนั้นยังทำงานกับการถ่ายวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังใช้งานได้แม้ใช้กับเลนส์ A mount หรือเลนส์แมนนวลโฟกัส (ผ่านอแดปเตอร์)

ความคล่องตัวในการใช้งาน
A9 ออกแบบให้ช่างภาพควบคุมการทำงานได้สะดวก คล่องตัว เข้าระบบที่ต้องการได้รวดเร็ว โดยเมื่อเปรียบเทียบกล้องตระกูล A7 แล้ว  A9 ได้เพิ่มแป้นปรับโหมด Drive ที่ด้านบนตัวกล้องซีกซ้าย ทำให้การเลือกระบบเลื่อนภาพทำได้เร็วมาก นอกจากนั้นยังวางระบบโฟกัส ( MF,DMF,AF-S และ AF-C) ไว้ด้านล่างของแป้นปรับโหมด Drive สามารถผลักก้านโยกเพื่อปรับเปลี่ยน ระบบโฟกัสได้อย่างเร็ว  ซึ่งในจุดนี้น่าจะถูกใจช่างภาพมืออาชีพมากขึ้น

ด้านหลังตัวกล้องมีจอยสติ๊ก ช่วยให้การย้ายจุดโฟกัสทำได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองและ 9 มีระบบ Touch Focus สามารถใช้นิ้วแตะหน้าจอ LCD เพื่อย้ายจุดโฟกัสได้ โดยสามารถใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ และสามารถแตะนิ้วสองครั้ง (Double Tab) เพื่อขยายจุดโฟกัสให้ใหญ่ขึ้นได้เมื่อโฟกัสแบบแมนนวล

เมนูออกแบบใหม่โดยเพิ่ม my menu เพื่อให้ช่างภาพสามารถปรับเลือก 30 เมนูที่เรียกมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่โฟกัสใช้งานบ่อยๆ สามารถบันทึกและเรียกใช้งานได้รวดเร็ว นอกจากนั้นยังสามารถปรับตั้งให้ปุ่มต่างๆ บนตัวกล้องทำหน้าที่อย่างที่ช่างภาพต้องการได้ และยังสามารถปรับพื้นที่โฟกัสและจุดโฟกัสให้ตรงตามตำแหน่งที่เซ็ทไว้เมื่อสลับการถือกล้องแนวนอนและแนวตั้งได้

รองรับการทำงานระดับโปร
เพื่อให้ A9 รองรับการใช้งานของมืออาชีพอย่างเต็มที่ หลายๆ จุดในกล้องรุ่นนี้จึงถูกออกแบบและพัฒนาใหม่ แบตเตอรี่ของกล้องรุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้รุ่น NP-FZ100 ซึ่งมีความจุมากกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ในกล้องตระกูล 7 ถึง 2.2 เท่า  บันทึกภาพนิ่งได้ 480 ภาพ และเมื่อใช้กับกริปแนวตั้งรุ่น VG-C3EM จะใส่แบตเตอรี่ได้ 2 ก้อน บันทึกได้ 950 ภาพ หรือถ้าใช้อแดปเตอร์แบตเตอรี่รุ่น NPA–MQZ1K จะใส่แบตเตอรี่ได้ถึง 4 ก้อน

A9 ใช้ช่องใส่เมมโมรี่การ์ด 2 ช่อง โดยเป็น SD Card ทั้ง 2 ช่อง ไม่ใช้ XQD อย่างที่บางท่านคาดการณ์ไว้  ช่องใส่การ์ดช่องล่างรองรับการ์ด UHS-II ที่มีความเร็วสูง สามารถบันทึกลงการ์ด 2 ช่อง ได้หลายรูปแบบตามมาตรฐานกล้องโปร คือบันทึกแบบ Back up ลงทั้ง 2 ช่อง บันทึกแยกไฟล์ RAW และ JPEG คนละการ์ด บันทึกแยกไฟล์วิดีโอและภาพนิ่ง

โครงสร้างของ 9 แข็งแกร่ง แน่นหนาในระดับที่มืออาชีพต้องการ  โดยใช้โครงสร้างหลักทั้งภายในภายนอกทำจากแมกนีเซียมอัลลอย แม้กระทั่งบริเวณกริปจับก็ใช้แมกนีเซียมอัลลอย ทำให้ตัวกล้องมีความแข็งแรง รองรับการใช้งานหนักของมืออาชีพได้เป็นอย่างดี โดยที่นํ้าหนักตัวกล้องน้อยกว่ากล้องระดับโปรถึงเท่าตัว  แปลนเมาท์เลนส์ออกแบบให้แน่นหนาแข็งแรงเป็นพิเศษด้วยการยึดด้วยสกรูถึง 6 จุด รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์เทเลโฟโต้ขนาดใหญ่ได้ดี

ชัตเตอร์แบบกลไกออกแบบใหม่ให้ลดความสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น  ออกแบบระบบเบรกใบม่านให้นุ่มนวล เพื่อลดอาการเบลอของภาพจากความสั่นสะเทือน และยังทำงานได้เงียบโดยมีความทนทานเป็นเลิศ ใช้งานได้ถึง 500,000 ครั้ง

A9 ซีลป้องกันความชื้นละอองนํ้าและฝุ่นรอบตัวรวมทั้งแบตเตอรี่กริป เพื่อให้เป็นกล้องที่สามารถใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ

รองรับ work flow ระดับโปร  A9 ออกแบบให้มืออาชีพทำงานได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็ว โดยมีพอร์ต LAN สำหรับการถ่ายโอนไฟล์จำนวนมากได้เร็ว และเมื่อเชื่อมต่อกล้องกับคอมพิวเตอร์ จะสามารถดูภาพโดยไม่ต้องถ่ายโอนภาพออกจากตัวกล้อง และเมื่อบันทึกในแบบ RAW+JPEG จะสามารถโอนเฉพาะไฟล์ JPEG ไปยังคอมพิวเตอร์ เพื่อลดขนาดไฟล์ไม่ให้ใหญ่มาก หรือจะถ่ายโอนภาพและดูภาพไปพร้อมๆ กันได้

A9 สามารถตั้งลิขสิทธิ์ภาพลงใน EXIF DATA ได้  มีซอฟท์แวร์แปลง RAW ไฟล์ Image Data Conventer ที่มีการพัฒนาก้าวหน้าในการปรับแต่งภาพ  A9 สามารถทำงานกับซอฟท์แวร์ Capture one Express (for sony) ได้ จึงรองรับการทำงานของมืออาชีพได้เต็มที่ A9 สามารถแสดงข้อมูลตำแหน่งสถานที่ได้เมื่อเชื่อมต่อกับแอพพ์ Play Memories Mobile ด้วยฟังก์ชั่นบลูทูธ และยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Wi-Fi และ NFC ในตัวกล้อง รวมทั้ง QR Code  และ A9 มีช่องต่อสายซิงค์แบบ PC เพื่อใช้กับแฟลชสตูดิโอด้วย

ระบบวิดีโอ 4K คุณภาพสูง 
A9 บันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K โดยการอ่านข้อมูลทุกพิกเซล (6000×3376)  ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่า 4K ถึง 2.4 เท่า จากนั้นจึงลดขนาดภาพลงเหลือ 3840×2160 (4K) พิกเซล ทำให้ภาพที่ได้มีรายละเอียดสูงเป็นพิเศษ มี Moire น้อย  A9 สามารถบันทึกฟอร์แมต XAVC S ได้โดยให้คุณภาพระดับ 4K/30p และ Full HD/120p

ระบบโฟกัสแบบ Fast Hybrid AF ช่วยให้การโฟกัสทำงานได้แม่นยำ รวดเร็ว นุ่มนวลเมื่อบันทึกวิดีโอ  พื้นที่โฟกัสที่กว้างกว่าทำให้การโฟกัสทำได้แม่นยำ แม้ซับเจกต์อยู่ใกล้ขอบภาพ  และด้วยระบบเฟสดีเทคชั่นบนเซ็นเซอร์รับภาพทำให้การโฟกัสติดตามวัตถุทำได้เร็ว แม่นยำ เฟรมเรทของกล้องสามารถปรับได้ตั้งแต่ 1 fps จนถึง 120 fps (100 fps ในระบบ PAL) สามารถบันทึกเป็นภาพแบบ Quick motion และ Slow motion ได้สะดวกรวดเร็ว นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถดึงภาพนิ่งออกจากไฟล์วิดีโอ 4K และ Full HD ได้ โดยจะได้ภาพนิ่งความละเอียด 8 ล้านพิกเซลจากไฟล์วิดีโอ 4K  และ 2 ล้านพิกเซลจากไฟล์วิดีโอ Full HD

ระบบเลนส์คุณภาพสูง 
โซนี่พัฒนาระบบเลนส์ในเมาท์ FE อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ช่างภาพมีเลนส์ใช้งานครบทุกช่วง รองรับการทำงานได้หลากรูปแบบ โดยเน้นคุณภาพให้รองรับความละเอียดของกล้องได้เต็มที่ ในขณะนี้มีเลนส์เกรดพรีเมี่ยม G Master 6 รุ่น (รวมทั้งเทเลคอนเวอร์เตอร์อีก 2 รุ่น ) มีเลนส์รหัส G 5 รุ่น เลนส์ ZEISS 6 รุ่น และเลนส์เกรดธรรมดาแต่คุณภาพสูงอีก 6 รุ่น เลนส์เสริมมุมกว้างอีก 2 รุ่น ทำให้ระบบเลนส์ค่อนข้างสมบูรณ์มาก


ผลการใช้งาน  

เป็นกล้องที่ถ่ายภาพกีฬาได้สนุกมากทั้งความเร็วโฟกัสและการถ่ายต่อเนื่อง 20 ภาพต่อวินาที  กล้อง Sony A9  เลนส์ Sony FE 24-70mm. f/2.8GM ; 1/1000 Sec f/4, Mode : M, WB : Auto, ISO 3200

ผมได้รับ A9 มาพร้อมเลนส์ FE 24 -70mm.f/2.8 GM, FE 100-400mm.f/4.5-5.6 GM OSS และมีเลนส์ FE 70-200mm.f/4G OSS ในการใช้งานร่วมกัน โดยบันทึกด้วยไฟล์ RAW+JPEG และในการบันทึกภาพผมใช้ทั้งชัตเตอร์แบบแมคคานิค และชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์  โดยนำกล้องไปบันทึกภาพกีฬาและภาพเคลื่อนไหวทั่วไป

ขนาดตัวกล้องใหญ่กว่า  A7R II ที่ผมใช้อยู่เล็กน้อย  การจับถือทำได้ดีกว่าเล็กน้อยเช่นกัน  เพราะสันด้านในของกริปตัดชัน  ในการใช้งานผมใช้กริปรุ่น GP-X1EM ช่วยให้การถือกล้องถนัดขึ้น  เพราะนิ้วก้อยไม่หลุดออกจากตัวกล้อง  การจัดวางปุ่มปรับแป้นหมุนดีกว่า  A7R II  โดยเฉพาะแป้น DRIVE และก้านปรับโหมดโฟกัสที่วางอยู่ด้านล่างแป้น DRIVE ช่วยให้การปรับตั้งเร็วขึ้นมาก และที่ชอบมากคือจอยสติ๊ก ที่ช่วยในการย้ายจุดโฟกัสเร็วและง่าย  โดยเฉพาะเมื่อมองภาพจากช่องของ EVF

มองภาพจากช่องมอง EVF แล้วประทับใจมากครับ  ขนาดภาพใหญ่สมกับเป็นกล้องโปร  ภาพคมชัดมาก  แสดงสีได้สวยงามใกล้เคียงสีจากไฟล์ทั้งความอิ่มสีและคอนทราสต์  ไม่จัดจ้านเกินจริง  ทำให้การมองภาพสบายตา  ไม่ล้าสายตาเมื่อต้องจดจ้องช่องมองนานๆ ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับช่องมองออพติคัลมาก  ในการเคลื่อนกล้องเร็ว ภาพในช่องมองก็ไม่กระตุก  ไม่วูบวาบให้รำคาญตา  ชอบมากครับ

จอ LCD ด้านหลังตัวกล้องก็แสดงภาพได้คมชัดมาก และให้สีดีมากเช่นกัน  ความสว่างสูง  ยังเห็นภาพได้ค่อนข้างดีแม้ใช้กลางแจ้ง และด้วยการใช้ระบบทัชสกรีน (Touch  Focus)ได้  ทำให้ใช้งานได้สนุกขึ้น เร็วขึ้น

ความเร็ว 20 ภาพ/วินาที พร้อมระบบโฟกัสติดตามวัตถุที่ยอดเยี่ยม ทำให้ช่างภาพสามารถเลือกจังหวะที่ต้องการได้มากกว่า ภาพชุดนี้บันทึกโดยใช้ระบบโฟกัส AF-C เลือกพื้นที่โฟกัสแบบ Zone ตั้ง AF Track Sensitivity ที่ตำแหน่ง 2 กล้องสามารถโฟกัสติดตามซับเจกต์ได้ตลอด  การเคลื่อนกล้องตามภาพก็ทำได้ง่ายเพราะไม่มี Blackout และช่องมองสว่างมาก  รายละเอียดของภาพอยู่ในระดับดีแม้ใช้ความไวแสงสูงถึง ISO 4000  กล้อง Sony A9  เลนส์ Sony FE 100-400mm.f/4.5-5.6 GM OSS ; 1/640 Sec f/5.6, Mode : M, WB : Auto, ISO 4000

ระบบออโตโฟกัสของ A9 ทำงานได้ยอดเยี่ยม  ผมลองนำไปถ่ายภาพกีฬา ฟุตบอล และเวคบอร์ด  โดยใช้ร่วมกับเลนส์รุ่นใหม่  FE 100-400mm. f/4.5-5.6 GM OSS พบว่าประสิทธิภาพของระบบออโตโฟกัสทำได้ในระดับโปรอย่างแท้จริง  ในการถ่ายภาพฟุตบอล  ผมปรับตั้งกล้องโดยใช้ระบบโฟกัส AF-C  พื้นที่โฟกัสแบบ ZONE  ตั้ง AF Track Sensitivity ที่ตำแหน่ง 2 คือ เน้นการล็อกที่ซับเจกต์หลักมากกว่าการโฟกัสวัตถุอื่นๆ ที่เคลื่อนเข้ามาในพื้นที่โฟกัสชั่วขณะ  และใช้ระบบเลื่อนภาพแบบ H  ความเร็ว 20 ภาพ/ วินาที  ซึ่งเป็นชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์  ในการบันทึกไม่มีเสียง  ต้องดูที่มุมขวาบนในช่องมอง จะมีสัญญาณกรอบสี่เหลี่ยมแสดงให้เห็นว่ากล้องกำลังบันทึกภาพอยู่  ในการถ่ายภาพทำได้ไม่ยากเลยครับ กล้องโฟกัสติดตามซับเจกต์ได้ตลอด และในลั่นชัตเตอร์ การมองภาพในช่องมองก็ยังปกติเพราะไม่มี Blackout  จึงเคลื่อนกล้องติดตามซับเจกต์ได้ง่าย  ขอเพียงให้ซับเจกต์อยู่ใน Zone ของระบบโฟกัสเท่านั้น  ภาพที่ได้น่าพอใจครับ  โฟกัสมีหลุดบ้างแต่น้อยมาก  ระบบโฟกัสทำได้ยอดเยี่ยมสมกับความเป็นกล้องโปร

ตัวอย่างภาพชุดที่แสดงประโยชน์ของความเร็ว 20 ภาพ/วินาที แม้ลูกบอลจะถูกยิงด้วยความเร็วสูง ก็ยังได้ภาพลูกบอลในเฟรมมาถึง 3 ภาพ  กล้อง Sony A9  เลนส์ Sony FE 100-400mm. f/4.5-5.6 GM OSS ; 1/800 Sec f/5.6, Mode : M, WB : 4700K, ISO 6400

จากนั้นผมลองนำไปถ่ายภาพเวคบอร์ด  โดยเลือกมุมที่ซับเจกต์เคลื่อนเข้าหากล้อง  แล้วหักมุมออกในแนวทแยงกับกล้อง  เลนส์ยังคงเป็น  FE 100-400mm. เช่นเดิม แต่การปรับตั้งเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยเพิ่มค่า Tracking Sensitivity เป็นที่ตำแหน่ง 3 เพื่อให้การตอบสนองเร็วขึ้น  ความเร็วในการบันทึกยังคงเป็น 20 ภาพ/วินาทีเช่นเดิม

ภาพที่ได้น่าพอใจมากครับ  กล้องแทรคตามซับเจกต์ได้ต่อเนื่อง  ภาพแต่ละชุดผมจะใช้เวลาบันทึกประมาณ 3-5 วินาที  ได้จำนวน 60-100 ภาพต่อชุด  แทบทุกเฟรมอยู่ในโฟกัส คมกริบเลยครับ  แม้ซับเจกต์จะเคลื่อนเข้ามาใกล้จนแทบเต็มเฟรมภาพ  การโฟกัสติดตามก็ยังแม่นยำ  ขอเพียงอย่าซูมขณะบันทึก (ลองซูมแล้วภาพจะหลุดโฟกัสทันที)

ประสิทธิภาพการโฟกัสติดตามวัตถุทำได้น่าพอใจมาก ภาพเวคบอร์ดแต่ละชุดผมจะบันทึกประมาณ 3-5 วินาที  ได้ภาพประมาณ 60-100 ภาพ แต่ละภาพอยู่ในโฟกัสแทบทั้งสิ้น กล้อง Sony A9 เลนส์ Sony FE 100-400mm. f/4.5-5.6 GM OSS ; 1/1600 Sec f/6.3, Mode : M, WB : Auto, ISO 400

ผมลองถ่ายภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ  โดยใช้ขวดนํ้าหอมทิ้งลงในนํ้า เพื่อดูการทำงานของชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ว่าจะมีความผิดเพี้ยนของรูปทรงวัตถุหรือไม่ โดยบันทึกที่ความเร็ว 20 ภาพ/วินาทีเช่นเดิม  ใช้แสงทังสเตนขนาด 1000 วัตต์ 3 ดวง  ได้ความเร็วชัตเตอร์ 1/1600 วินาที F/5.6 กับ ISO 1000

ผลที่ได้คือภาพแทบไม่มีอาการย้วยจากชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เลยครับ  รูปทรงวัตถุยังปกติ  ความเร็ว 20 ภาพ/วินาที  ช่วยให้จับจังหวะภาพดีๆ ได้ง่ายขึ้น  เพราะการเคลื่อนไหวเร็วมาก กับการใช้งานทั่วไป 9 ทำได้ดีครับ ความละเอียด 24 ล้านพิกเซลเป็นจุดที่ลงตัว  เมื่อต้องการทั้งความเร็ว คุณภาพและสัญญาณรบกวนตํ่า ช่องมองภาพที่ดีมากทำให้สนุกกับการใช้งานมากขึ้น

ความเร็ว 20 ภาพ/วินาที ทำให้เก็บภาพช็อตนี้ได้ 2 ภาพ (ดี 1 ภาพ) ถ้าความเร็วลดลงเหลือ 10 ภาพ/วินาที จำนวนภาพที่ยังเห็นขวดน้ำหอมจะเหลือ 1 ภาพ และอาจไม่ได้จังหวะดีเลย กล้อง Sony A9  เลนส์ Sony FE 100-400mm. f/4.5-5.6 GM OSS ; 1/1600 Sec f/5.6, Mode : M, WB : 2900K, ISO 1000

ความคมชัดของภาพที่ได้ดีมาก ที่ความไวแสง ISO 100-800  ภาพใสเคลียร์มาก ความคมชัดเยี่ยม  ที่ ISO 1600 รายละเอียดจะลดลงบ้าง แต่ก็ยังน่าพอใจมาก  ที่ ISO 3200 ความคมชัดยังอยู่ในระดับดี  ที่ ISO 6400 ความคมชัดทำได้ระดับค่อนข้างดีครับ

สัญญาณรบกวนของ 9 ทำได้น่าพอใจ  เปรียบเทียบกับ A7II  ที่มีความละเอียด  24 ล้านพิกเซลเท่ากัน  ภาพจาก 9 จะมีสัญญาณรบกวนตํ่ากว่าราว ๆ 2/3 สตอบ  อาจจะไม่มากนัก แต่ก็จะเห็นผลเมื่อใช้ความไวแสง ISO 3200 หรือ ISO 6400

ในส่วนของวีดีโอนั้น ผมไม่ได้ลองมากนัก เพราะมีเวลาน้อย  แต่ก็ได้ลองบันทึกกับเลนส์ FE 24-70 mm.f/2.8 GM พบว่าภาพที่ได้รายละเอียดดีมาก  และมีสัญญาณรบกวนตํ่า  สีสันเจิดจ้าสดใสดี


ความเห็น
นี่คือกล้องมิเรอร์เลสที่ก้าวเข้าไปสู่ตลาด  SPORT/ACTION ได้เต็มรูปแบบทั้งความเร็วในการถ่ายต่อเนื่อง  ประสิทธิภาพของระบบออโตโฟกัสและคุณภาพไฟล์  แน่นอนครับว่า ณ. ปัจจุบัน โซนี่ยังไม่มีเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ความสว่างสูงออกมา  แต่กับเลนส์ FE100-400mm.f/4.5-5.6 GM OSS ตัวนี้  ผลที่ได้ก็น่าประทับใจอย่างยิ่งแล้วครับ  ช่างภาพสามารถใช้ A9 กับเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ของค่ายอื่นผ่านอแดปเตอร์จากผู้ผลิตอิสระหลายๆ รายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งความเร็วและความแม่นยำ  ดังนั้น A9 จึงเป็นกล้องที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่น  โดยได้ของแถมชั้นดี คือ การบันทึกวีดีโอ 4K คุณภาพสูง  เหมาะอย่างยิ่งกับช่างภาพกีฬา  ช่างภาพข่าว ช่างภาพสตรีท ช่างภาพเวดดิ้ง ช่างภาพแฟชั่น และช่างภาพ STOCK  เป็นกล้องมิเรอร์เลสที่ใช้สนุก  ให้ฟิลลิ่งดีมาก  แนะนำเป็นพิเศษครับหากมีงบพอ

 

ขอบคุณ : บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด สำหรับความอนุเคราะห์กล้องและเลนส์ที่ใช้ในการ
ทดสอบ   ข้อมูลเพิ่มเติม :  www.sony.co.th

เรื่อง / ภาพ : อิสระ เสมือนโพธิ์

 

อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หรือสนใจดูรีวิวรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่
https://test2.fotoinfo.online/reviews-previews/reviews-reviews