Knowledge

INTERVIEW : MICHAEL YAMASHITA

Michael Yamashita ถ่ายภาพให้นิตยสาร National Geographic มานานกว่า 30 ปี เขาได้นำสองสิ่งที่เขาหลงใหล ซึ่งก็คือการถ่ายภาพและการท่องเที่ยวมาผสานเข้าด้วยกัน ถือเป็นการสรรสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับบรรดาภาพถ่ายที่เยี่ยมยอดและน่าทึ่งจำนวนนับไม่ถ้วนจนก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมาย เขาเป็นหนึ่งในบรรดาช่างภาพมืออาชีพกลุ่มแรกๆ ที่หันมาร่วมงานกับ Sony ตั้งแต่ปี 2006 Michael Yamashita จะมาพูดถึงเรื่องราวการเดินทางสู่ลาดักห์(Ladakh) พร้อมทั้งจะมาบอกเล่าว่ากล้อง A7R III มีส่วนช่วยเขาระหว่างการผจญภัยในสภาวการณ์สุดท้าทายนี้อย่างไรบ้าง

คุณมีวิธีทำให้ภาพถ่ายสะท้อนอารมณ์ได้อย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในแบบของคุณได้อย่างไร

สำหรับผม อารมณ์มักจะแฝงอยู่ในดวงตาเสมอ นั่นคือองค์ประกอบเดียวที่สำคัญที่สุดในการจับภาพของการถ่ายภาพบุคคล คนทั่วไปมักจะยิ้มเพราะรอยยิ้มเป็นสิ่งที่เราคาดหวัง ทุกๆ คนมักแสร้งแสดงสีหน้าที่ดีด้วยการยิ้มให้กล้อง แต่เมื่อใดที่พวกเขาเลิกยิ้มอย่างที่คุณคาดหวัง คุณก็จะได้ดูภาพที่จริงจัง คุณต้องทุ่มเวลาให้กับวัตถุของคุณเพื่อที่จะสัมผัสถึงอารมณ์ในดวงตาของพวกเขา เพราะดวงตาคือจิตวิญญาณของแต่ละบุคคล

บนกล้องของผม ผมเปิดใช้งานฟังก์ชัน Eye Autofocus ตลอดเวลา ดังนั้นไม่ว่าคนที่ถูกถ่ายภาพจะเคลื่อนไหวไปที่ใด ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ตำแหน่งไหนในเฟรม ดวงตาของพวกเขาก็จะยังคงคมชัดสมบูรณ์แบบทุกครั้ง แววตาและอารมณ์ที่แฝงอยู่จะยังคงชัดเจนมาก การตั้งค่าอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมค่อนข้างได้เปรียบคือ ระบบโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง แทนที่การโฟกัสอัตโนมัติแบบทีละภาพ เพราะอย่างที่บอก คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คนที่คุณกำลังถ่ายภาพจะเคลื่อนไหวไปที่ใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณใช้เลนส์ Sony ที่มีความรวดเร็วมากเหล่านี้ ระยะชัดลึกจาก f/1.4 นั้นตื้นมาก ดังนั้นคุณจำเป็นต้องสามารถเปลี่ยนโฟกัสตาให้ได้อย่างรวดเร็ว และหนทางเดียวที่คุณสามารถจะทำเช่นนั้นได้ก็คือใช้ระบบโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่องนั่นเอง

อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกพอใจที่ได้เปลี่ยนมาใช้กล้องมิเรอร์เลส A7R III

ประการแรกเลย การโฟกัสที่แม่นยำมากๆ ด้วยความที่มีจุดโฟกัสจำนวนมากขึ้น ผมจึงสามารถวางใจในกล้องรุ่นนี้ได้ เกือบทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นระบบอัตโนมัติ ตั้งแต่การโฟกัสอัตโนมัติไปจนถึงการปรับแสงอัตโนมัติ เมื่อผมปล่อยให้กล้องทำงานเอง ผมก็สามารถมุ่งความสนใจไปยังวัตถุได้ และนั่นเป็นวิธีการทำงานที่ผมชอบ ผมคิดว่าบรรดามืออาชีพต่างก็ต้องการอุปกรณ์ที่เรียบง่ายที่สุดและดีที่สุดที่สามารถปล่อยให้พวกเขามุ่งความสนใจไปแค่ที่วัตถุเท่านั้นพอ

ตัว ‘R’ ใน A7R III ย่อมาจากคำว่า resolution(ความละเอียดภาพ) หากว่าคุณได้เห็นนิทรรศการภาพถ่ายของผมมาบ้าง คุณก็จะรู้ว่าผมชอบภาพที่มีขนาดใหญ่ๆ ผมไม่เคยเห็นว่าจะมีช่างภาพคนไหนที่ไม่ชอบเห็นชิ้นงานของพวกเขาในขนาดขยายใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เลย สำหรับการถ่ายภาพบุคคล ผลที่ได้จะต่างออกไปหากคุณขยายมันให้ใหญ่ขึ้นกว่าขนาดปกติ แต่ด้วยกล้องรุ่นนี้คุณจะได้เห็นรายละเอียดที่น่าทึ่ง ไม่เพียงแต่ดวงตาที่มีความคมชัดอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้น คุณยังสามารถที่จะเห็นเส้นผมทุกเส้น ขนตาทุกเส้น และแน่นอนว่าคุณจะได้เห็นจุดบกพร่องหรือตำหนิทุกอย่างบนใบหน้าของบุคคลนั้นๆ คุณจะไม่พลาดส่วนใดเลย มันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อทีเดียว

สิ่งที่ยากสำหรับคุณในการถ่ายภาพที่ดาลักห์ ประเทศอินเดียคืออะไรบ้าง

ในสภาพอากาศที่ตํ่ากว่าศูนย์องศา พลังงานแบตเตอรี่จะลดไวมาก สภาพอากาศในดาลักห์มีความหนาวเย็นมาก แต่ด้วยแบตเตอรี่รุ่นใหม่ของ  A7R III คุณสามารถที่จะถ่ายภาพตามปกติได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จเลย เป็นแบตเตอรี่ซึ่งมีความอึดที่น่าทึ่งมาก เมื่อคุณมีอุปกรณ์ที่ดีเช่นนี้ ก็จะทำให้คุณมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ช่วยลดความกดดันลงได้เวลาที่คุณออกไปทำงาน ในฐานะของการเป็นช่างภาพ ผมชอบที่จะได้ยินเสียง “คลิก” ของชัตเตอร์ แต่เวลาที่คุณถ่ายภาพบุคคล ตัวแบบของคุณอาจกำลังรอเสียงคลิกของชัตเตอร์หรือกำลังตั้งท่าใส่กล้อง ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าหากพวกเขาไม่รู้ตัวว่าคุณกำลังถ่ายภาพอยู่ ผมชอบใช้ฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบไร้เสียงสำหรับการถ่ายภาพประเภทนี้ ผมตั้งไว้เป็นหนึ่งในบรรดาปุ่มกำหนดเองของผมที่สามารถเปิดและปิดได้ทุกเมื่อ ความเงียบถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับการถ่ายภาพบุคคล

เลนส์รุ่นไหนบ้างที่เป็นเลนส์โปรดของคุณ

เลนส์โปรดสำหรับการถ่ายภาพบุคคลของผมคือ เลนส์ Sony 85mm F1.4 G Master ซึ่งมีความคมชัดสูงมาก รวดเร็วและยังให้โบเก้ที่ยอดเยี่ยมด้วย ในการถ่ายภาพบุคคลระยะค่อนข้างไกล ผมก็จะใช้เลนส์ Sony 70-200mm F2.8 G Master ด้วย เลนส์พวกนี้เปรียบเสมือนคลังแสงหลักของผมก็ว่าได้ ในการถ่ายภาพบุคคล ผมมักเลือกเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เสมอ ผมไม่ได้สนใจเรื่องระยะชัดลึกมากนัก เพราะในภาพถ่ายบุคคล ดวงตาคือทุกสิ่ง ดังนั้นทั้งหมดที่คุณต้องการจริงๆ ก็คือการโฟกัสที่ดวงตา ผมไม่สนใจหากว่าใบหูหรือส่วนอื่นจะหลุดโฟกัสไปบ้างสักเล็กน้อย ผมต้องการโฟกัสที่ดวงตา แล้วผมก็ชอบถ่ายภาพโดยใช้รูรับแสงที่ f/1.4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องการให้ได้โบเก้ที่นุ่มนวลสวยงามซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเลนส์ที่ทำให้ภาพมีความเป็นธรรมชาติ

ในฐานะที่เป็นช่างภาพมืออาชีพ คุณมีวิธีเตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจยากๆ อย่างไรบ้าง

ผมต้องการรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายงานให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รวมถึงผู้คนที่ผมกำลังจะไปพบเจอด้วย ผมมักจะค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ผมกำลังจะไป ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ศาสนา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพอจะค้นคว้าได้ หลังจากนั้นผมก็จะตรวจดูบรรดาภาพถ่ายสถานที่นั้นๆ ที่มีคนเคยถ่ายไว้ เพราะว่าผมต้องการที่ต้องการจะเก็บภาพในมุมใหม่ๆ ในสายอาชีพนี้เราจะต้องไปเยือนสถานที่ที่ถูกถ่ายภาพไปก่อนหน้านี้แล้วเป็นแสนๆ ครั้ง และงานของผมคือจะต้องนำเสนออะไรให้ดูมีความต่างจากบรรดาภาพเหล่านั้น

อุปกรณ์อะไรบ้างที่คุณพกไปเพื่อให้ได้ช็อตที่ดีที่สุด

แน่นอนว่ากล้องคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมเลือกที่จะใช้กล้องดีที่สุดเท่าที่จะทุ่มเทเงินซื้อได้ แล้วเวลานี้ผมกำลังใช้ Sony ผมพกเลนส์ทุกตัวที่ผมมี ทุกช่วงทางยาวโฟกัสไปด้วย ซึ่ง Sony A7R III มีรองรับเกือบหมดทุกช่วงเลนส์ ดังนั้นผมจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์และมีตัวช่วยอย่างที่ใจต้องการ การถ่ายภาพคืองานซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่ไม่เปิดโอกาสให้ทำผิดพลาดได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องการอุปกรณ์ที่ดีที่สุด และอุปกรณ์ที่ว่านั้นก็คือสิ่งที่ผมกำลังถืออยู่

คุณมีเคล็ดลับอะไรจะฝากบอกช่างภาพมือสมัครเล่นบ้างไหม

การถ่ายภาพที่ยอดยี่ยมนั้นขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของตัวคุณ อยู่ที่ว่าคุณเห็นวัตถุที่คุณกำลังมองอยู่อย่างไร คุณจะต้องมีภาพในใจของคุณก่อนที่คุณจะมีภาพเหล่านั้นอยู่ในกล้อง ผมอยากบอกว่า ผมเห็นภาพก่อนที่ผมจะกดชัตเตอร์เสียอีก อาจจะเป็นการคิดล่วงหน้าแค่วินาทีเดียวหรือเพียงเสี้ยววินาที แต่บางภาพผมถึงขนาดคิดวางแผนทั้งหมดไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นวันๆ หรือเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว สิ่งสำคัญที่สุดที่จะสร้างความต่างให้ตัวคุณในฐานะการเป็นช่างภาพก็คือวิสัยทัศน์ของคุณเอง


WINDOW TO THE SOUL by Michael Yamashita

สืบเนื่องจากงาน Sony Meets Art ที่ได้เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการจากในงาน Bangkok International Photo Fair 2018 ที่ผ่านมา โซนี่จึงได้จัดนิทรรศการภาพถ่าย WINDOW TO THE SOUL by Michael Yamashita ซึ่งจะพาทุกท่านไปชมความงามและความคมชัดที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นถึงความละเอียดของไฟล์ภาพ สะท้อนมุมมองและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินช่างภาพมืออาชีพอย่างแท้จริง ภายในงานได้มีการจัดแสดงผลงานภาพถ่ายจาก มร.ไมเคิล ยามาชิตะ ซึ่งถูกถ่ายทอดจากประสบการณ์การเดินทางไป ลาดักห์ (Ladakh) ประเทศอินเดีย โดยไมเคิลได้ใช้กล้อง Sony A7R III ในการถ่ายภาพทั้งหมด งานนิทรรศการจะจัดขึ้นที่ร้านโซนี่ สโตร์สยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. – 31 มี.ค. 2562

 


อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
FOTOINFO มี LINE@ OFFICIAL แล้ว !!! อย่าลืมแอดไลน์ @FOTOINFO (หรือสแกน QR Code ในภาพนี้)

? ขอบคุณครับ

? ติดตาม FOTOINFO ได้ทั้งรูปแบบนิตยสาร Free Copy, e-magazine ฟรีดาวน์โหลด และช่องทางอื่นๆออนไลน์ได้ที่ ?
?Line@ : @fotoinfo
?YouTube : Fotoinfo Channel
?Website : fotoinfomag.com
?e-magazine : issuu.com/fotoinfomagazine


ติดตามเทคนิค ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ กิจกรรมถ่ายภาพ และสิทธิประโยชน์มากมาย ส่งตรงถึงคุณ ได้ที่นี่ FotoinfoPlus

หรือสนใจสาระความรู้ด้านการถ่ายภาพที่น่าสนใจอื่นๆ จากช่างภาพมืออาชีพได้ที่นี่

https://test2.fotoinfo.online/all-about-photo/protalk/