Cameras

10 Camera for Videography

สำหรับการบันทึกความทรงจำของเรานั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ภาพถ่ายเท่านั้น หากแต่ยังมีการบันทึกวิดีโอ เพื่อเก็บบรรยากาศ และสามารถถ่ายทอดความต่อเนื่องของบรรยากาศต่างๆ เหล่านั้นได้มากกว่า แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องการซื้อกล้องเพื่อที่จะบันทึกวิดีโออย่างเดียว และต้องการกล้องที่ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพนิ่ง ต่างก็พัฒนาฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอในกล้องถ่ายภาพของตัวเอง ให้ตอบสนองการใช้งานได้ดีมากขึ้น ทั้งคุณภาพไฟล์และการควบคุมการบันทึกภาพ ทำให้กล้องถ่ายภาพในปัจจุบันมีความโดดเด่นทั้งภาพนิ่ง และการบันทึกวิดีโอไปด้วยในเครื่องเดียวกัน ทำให้ผู้ที่ใช้งานในระดับที่ซีเรียส ยังเลือกใช้กล้องถ่ายภาพในการบันทึกวิดีโอด้วย เพราะสามารถเปลี่ยนเลนส์ให้ตอบสนองกับงานที่ต้องการได้มากมายนั่นเอง

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่ากล้องส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชั่นในการบันทึกวิดีโอมาให้ใช้งาน และพัฒนาคุณภาพไฟล์ให้มีความละเอียดมากขึ้น แต่กล้องหลายๆ รุ่น ก็ออกแบบให้เหมาะกับผู้ใช้งานระดับ Consumer เท่านั้น ไม่สามารถต่อพ่วงกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีความจำเป็นสำหรับมืออาชีพ ในฉบับนี้ FotoinfoPlus จึงจะมาแนะนำกล้องที่สามารถถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง และตอบสนองการใช้งานวิดีโอในระดับมืออาชีพไปด้วยพร้อมๆ กันครับ

จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ HDR CMOS ฟอร์แมท Micro Four-Thirds
  • จอมอนิเตอร์ 5.0 นิ้ว 1920 x 1080 พิกเซล ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง Dual Native ISO 400 และ 3200
  • Dynamic Range กว้างถึง 13 สตอป
  • CinemaDNG RAW 12 bit
  • ไมโครโฟนในตัว 4 ตัว
  • ช่องเมมโมรี่การ์ด 2 ช่อง (CFast และ SD card (UHS II))

ถึงแม้ว่าจะเป็นกล้องที่สามารถถ่ายภาพนิ่งได้ แต่โดยฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ถือเป็นกล้องวิดีโอเต็มรูปแบบ และออกแบบให้สามารถปรับควบคุมได้สะดวกแบบกล้อง Mirrorless โดดเด่นที่สามารถใช้เลนส์ของระบบ Micro Four-Thirds ได้ทั้งหมด และบันทึกวิดีโอคุณภาพ DCI 4K ความเร็ว 23.98, 24, 25, 29-97, 30, 50, 59.94 และสูงสุดถึง 60 เฟรมต่อวินาที รวมทั้งเลือกบันทึกคุณภาพ Full HD
ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที เพื่อแสดงในรูปแบบวิดีโอ Slow Motion นั่นเอง

Blackmagic Pocket Cinema Camera 4K มีระบบบันทึกเสียงคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ โดยมีไมโครโฟนในตัวถึง 4 ตัว นอกจากนี้ยังมีอินพุต mini XLR สำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนในระดับมืออาชีพ เช่น ไมโครโฟนขนาดเล็ก หรือไมค์บูม เป็นต้น รวมทั้งมีช่องไมโครโฟนสเตอริโอเสริมขนาด 3.5 มม. ทำให้สามารถใช้งานกับไมโครโฟนของกล้องวิดีโออื่นๆ ได้อีกด้วย

Blackmagic Pocket Cinema Camera 4K มีช่องเสียบการ์ดให้ใช้งานได้ 2 ช่อง คือช่อง CFast 2.0 และช่อง SD Card (UHS-II) รวมทั้งสามารถต่อเชื่อมจาก USB-C สำหรับการบันทึกคลิปวิดีโอที่ยาวกว่าไปยังหน่วยความจำภายนอก การควบคุมการทำงานและแสดงภาพวิดีโอผ่านจอมอนิเตอร์ขนาด 5 นิ้ว หรือจะเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์เสริมภายนอกผ่าน HDMI ได้ด้วยเช่นกัน ตัวเครื่องมาพร้อมซอฟท์แวร์ตัดต่อวิดีโอ DaVinci Resolve Studio ช่วยให้ใช้งานได้ครบถ้วน ตั้งแต่กระบวนการบันทึก มาจนถึง Post-Production เพื่อนำไฟล์วิดีโอไปใช้งานต่อไป


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Fullframe 30.3 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.15 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ปรับหมุนได้ ควบคุมด้วยระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 100-40000
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที
  • มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
  • Dual Pixel CMOS AF 5,655 จุด

กล้อง Mirrorless ที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมตัวแรกของแคนนอน โดดเด่นที่ระบบการทำงานที่หลากหลาย และฉีกหนีรูปแบบการปรับตั้งค่าการทำงานแบบเดิมด้วย FV Mode ที่เป็นการนำเอาการควบคุมโหมด M ผสมผสานการปรับตั้งกับโหมดอัตโนมัติต่างๆ ทำให้ควบคุมการตั้งค่ากล้องได้อย่างรวดเร็ว ส่วนฟังก์ชั่นในด้านการบันทึกวิดีโอนั้น สามารถบันทึกคุณภาพไฟล์ระดับ 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที 4:2:2 ความลึกสี 8 bit และ 4:2:2 ความลึกสี 10 bit เมื่อบันทึกด้วยหน่วยความจำภายนอก และมาพร้อม C-Log ที่ให้ไดนามิกเรนจ์สูงถึง 800% หรือ 12 สตอป ช่วยให้นำมาปรับแต่งในภายหลังได้ง่ายขึ้นนั่นเอง บันทึกเสียงด้วยไมโครโฟนแบบสเตอริโอในตัวกล้อง และสามารถต่อไมโครโฟนภายนอกที่เป็นอุปกรณ์เสริมผ่านแจ็คขนาด 3.5 มม. รวมทั้งมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด Fullframe
  • ความละเอียด 30.4 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านพิกเซล ควบคุมด้วยระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 100-32000
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 ภาพต่อวินาที
  • มี GPS และ Wi-Fi ในตัว
  • ช่องเมมโมรี่การ์ด 2 ช่อง (CF และ SD card)

หลายคนอาจแปลกใจว่ากล้องรุ่นนี้หลุดเข้ามาในโผได้ยังไง เพราะนี่ไม่ใช่กล้อง Mirrorless อย่างกล้องอื่นๆ อีก 9 รุ่นในรายการ แต่นี่คือกล้อง DSLR ระดับมืออาชีพที่มีระบบวิดีโอที่ดีมากพอรุ่นนึงที่เหล่ามืออาชีพไว้วางใจ โดดเด่นที่ปรับปรุงระบบโฟกัสเป็นแบบ Dual Pixel CMOS AF และ Movie Servo AF เพื่อตอบสนองการโฟกัสที่ต่อเนื่อง และไม่ขาดตอนระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง รวมไปถึงการบันทึกวิดีโอ ซึ่งบันทึกด้วยคุณภาพระดับ DCI 4K (4096 x 2160 พิกเซล) ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที แบบ 4: 2: 2 ความลึกสี 8 bit (ครอปเซ็นเซอร์ 1.74เท่า) รวมทั้งยังปรับเลือกคุณภาพได้เป็น Full HD 1080p ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที (ไม่ครอปเซ็นเซอร์) และ HD 720p ความเร็ว 120 ต่อวินาที สำหรับการเล่นภาพแบบ Slow motion

สามารถบันทึกไฟล์ภาพผ่านสาย HDMI ไปยัง External Storage และบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟนแบบสเตอริโอบนตัวกล้อง หรือใช้ไมโครโฟนเสริมผ่านช่องต่อขนาด 3.5 มม. และมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี GPS และ Wi-Fi พร้อม NFC ในตัวอีกด้วย


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ X-Trans BSI CMOS ขนาด APS-C
  • ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ OLED EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้
  • ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 160-12800
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 11 ภาพต่อวินาที
  • มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว

กล้อง Mirrorless ระดับโปร โดดเด่นที่ระบบโฟกัสที่รวดเร็ว ฉับไว และแม่นยำ รวมทั้งสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วถึง 11 ภาพต่อวินาที เมื่อใช้ชัตเตอร์แบบปกติ และสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 30 ภาพต่อวินาที เมื่อใช้ชัตเตอร์อิเลกทรอนิกส์ และไม่มี back-out เมื่อมองภาพผ่านวิวไฟน์เดอร์

ส่วนการบันทึกวิดีโอนั้น บันทึกด้วยคุณภาพระดับ UHD และ DCI 4K แบบ 4:2:0 ความลึกสี 10 bit สามารถบันทึกลงหน่วยความจำทั้งภายนอกและภายในไปพร้อมกันได้ และบันทึกคุณภาพ Full HD 1080p ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาทีได้ และความเร็วของหน่วยประมวลผล quad-CPU X-Processor 4 ช่วยให้ความเร็วในการอ่านสูงถึง 17ms เมื่อบันทึกวิดีโอ 4K ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที รวมทั้งช่วยลดความผิดเพี้ยนของ Rolling Shutter เมื่อถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ F-Log ซึ่งให้ภาพที่มีช่วงไดนามิกกว้าง ช่วยให้บันทึกรายละเอียดของภาพได้ครบถ้วนในสภาพแสงที่ยุ่งยาก เพื่อการปรับแต่งแก้ไขในภายหลัง รวมทั้งมีช่องไมโครโฟนเสริม และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. เพื่อการบันทึกเสียงคุณภาพสูงอีกด้วย


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาดฟูลเฟรม 24.5 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้ ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 100-51200
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 12 ภาพต่อวินาที
  • มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
  • ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัว 5 แกน

กล้อง Mirrorless รุ่นรองจาก Z7 ที่มีระบบการทำงานเกือบจะเหมือนๆ กัน ต่างที่ความละเอียดของไฟล์ภาพที่ Z6 มีอยู่ 24.5 ล้านพิกเซล ตอบสนองการโฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำจากจุดโฟกัสกว่า 273 จุด มีจอ LCD สำหรับแสดงผลการทำงานเพิ่มเติมจากจอมอนิเตอร์ด้านหลัง ที่สามารถปรับระดับได้ และควบคุมด้วยระบบสัมผัส

ด้านฟีเจอร์ของการบันทึกวิดีโอ รองรับการบันทึกด้วยคุณภาพระดับ UHD 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ความเร็ว 30, 25 และ 24 เฟรมต่อวินาที ความลึกสี 10 bit และมาพร้อม N-Log ที่ให้ผู้ใช้นำไฟล์ไป Grading ในภายหลังได้สะดวกมากขึ้น เลือกขนาดพื้นที่บันทึกภาพของเซ็นเซอร์ได้ทั้งเต็มเฟรม หรือขนาด DX crop นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที เพื่อเพลย์ภาพแบบสโลโมชั่นได้ สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอลงในเมมโมรี่การ์ดหรือเลือกบันทึกไฟล์ไปยังหน่วยความจำเสริมภายนอกผ่าน HDMI ได้

Z6 มีฟังก์ชั่น Electronic VR ช่วยให้ได้ภาพที่นิ่งและคมชัด เมื่อต้องบันทึกโดยการถือกล้องถ่ายภาพ รวมทั้งสามารถใช้ฟังก์ชั่น Focus Peaking สำหรับช่วยในการปรับโฟกัสแบบแมนนวลอีกด้วย บันทึกเสียงไมโครโฟนสเตอริโอในตัว หรือใช้ไมโครโฟนเสริมผ่านช่องเชื่อมต่อขนาด 3.5 มม. รวมทั้งมีช่องสำหรับหูฟังด้วยเช่นกัน


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ Live MOS ความละเอียด 20.4 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.037 ล้านพิกเซล ปรับหมุนได้ ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 200-25600
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 15 ภาพต่อวินาที
  • มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
  • ระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ 5 แกน

กล้อง Mirrorless ระดับโปรรุ่นล่าสุดของโอลิมปัส โดดเด่นที่การตอบสนองการทำงานที่รวดเร็วมากขึ้น ทั้งระบบโฟกัสและการถ่ายภาพต่อเนื่อง ที่สามารถถ่ายภาพด้วยความเร็วสูงถึง 15 ภาพต่อวินาที ตัวกล้องออกแบบใหม่ทั้งหมด และมีแบตเตอรี่กริปในตัว พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ 5 แกน ซึ่งช่วยให้สะดวกกับการถือกล้องถ่ายภาพด้วยมือ ทั้งในการถ่ายภาพนิ่ง และการบันทึกวิดีโอ

สำหรับฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอนั้น บันทึกด้วยคุณภาพ DCI 4K ความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที และ UHD 4K ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที รองรับรูปแบบสี 4:2:2 มาพร้อม OM-Log ที่ขยายช่วงไดนามิกเรนจ์ให้กว้างขึ้น สำหรับการ Grading โดยเฉพาะเมื่อใช้รูปแบบไฟล์ LUT

E-M1X สามารถต่อพ่วงกับ external monitor ผ่าน HDMI ได้ การบันทึกเสียงทำได้ทั้งจากไมโครโฟนสเตอริโอ และไมโครโฟนเสริมผ่านช่องต่อขนาด 3.5 มม. รวมทั้งช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้วยเช่นกัน และนอกจากวิดีโอ 4K แล้วยังสามารถบันทึกภาพ Timelapse ด้วยความละเอียดระดับ UHD 4K ด้วยเช่นเดียวกัน


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ MOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ OLED LVF ความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้ ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 100-51200
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 9 ภาพต่อวินาที
  • มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
  • ช่องเมมโมรี่การ์ด 2 ช่อง (XQD และ SD card)

กล้อง Mirrorless ฟอร์แมทฟูลเฟรม S-Series ไลน์อัพใหม่เพิ่มเติมจาก Micro Four-Thirds ที่ทำตลาดมายาวนาน โดดเด่นที่ช่องมองภาพ LVF OLED ความละเอียดสูงถึง 5.76 ล้านพิกเซล และ Hi-Res Mode ที่ปรับเพิ่มความละเอียดขึ้นไปเป็น 96 ล้านพิกเซล จอมอนิเตอร์ปรับได้หลายทิศทาง และควบคุมด้วยระบบสัมผัส มีช่องเมมโมรี่การ์ด 2 ช่องแบบ XQD และ SD ให้เลือกใช้งาน

สำหรับฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอ ที่ช่างภาพได้รับการยอมรับว่าค่ายพานาโซนิคมีความเชี่ยวชาญในการผลิตกล้องถ่ายภาพที่มีความโดดเด่นในด้านวิดีโอที่ไม่แพ้ภาพนิ่งเลยทีเดียว โดยบันทึกด้วยคุณภาพ UHD 4K Full Pixel read-out ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:0 ความลึกสี 10 bit โดยไม่จำกัดเวลาบันทึก ส่วนคุณภาพ UHD 4K ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที บันทึกได้นานสูงสุด 29 นาที 59 วินาที แต่ถ้าลดขนาดมาเป็น Full HD ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที สามารถบันทึกได้ไม่จำกัดเวลา นอกจากนี้คุณภาพ Full HD ยังสามารถปรับเฟรมเรทได้ถึง 180 เฟรมต่อวินาที สำหรับการเพลย์ภาพแบบ Slowmotion ด้วย

ฟังก์ชั่นเด่นอีกอย่างหนึ่งของการบันทึกวิดีโอคือ โหมด High Dynamic Range (HDR) พร้อมโหมด Hybrid Log Gamma (HLG) ช่วยให้บันทึกรายละเอียดของ Hi-light และ Shadow ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับการ Grading อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกไฟล์ไปยังหน่วยความจำภายนอก ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมผ่าน HDMI Type A รวมทั้งมีช่องไมโครโฟนเสริม และหูฟังขนาด 3.5 มม.


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ Multi Aspect Ratio MOS ความละเอียด 10.28 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ EVF ความละเอียด 3.68 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านพิกเซล ปรับหมุนได้ ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 160-51200
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 12 ภาพต่อวินาที
  • มี Bluetooth และ Wi-Fi ในตัว
  • ช่องเมมโมรี่การ์ดแบบ SD card 2 ช่อง

Panasonic Lumix GH5s ถือเป็นกล้องภาพนิ่ง ที่มีคุณสมบัติในการบันทึกวิดีโอที่หลากหลาย โดยมาพร้อมฟีเจอร์ V-Log L สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด DCI 4K ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:0 ความลึกสี 8 bit, ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:2 ความลึกสี 10 bit และ 24 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:2 ความลึกสี 10-bit รวมทั้ง รองรับการบันทึก UHD 4K และ Full HD ที่ปรับเฟรมเรทได้สูงถึง 240 เฟรมต่อวินาที สำหรับการเพลย์ภาพแบบ Slowmotion นอกจากนี้ยังมีพอร์ต HDMI สำหรับเอาต์พุตไฟล์คุณภาพสูง สำหรับใช้กับจอภาพเสริมภายนอก และเครื่องบันทึกอีกด้วย

ฟีเจอร์วิดีโอที่โดดเด่น อาทิ โหมด High Dynamic Range และ Hybrid Log Gamma สามารถใช้ในการบันทึกรายละเอียดในส่วนที่เป็น Shadow และ Hi-light ของภาพ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบภาพให้เลือกใช้เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ภาพที่สามารถ Grading ระดับสีได้มากขึ้นเช่น CINELIKE V และ CINELIKE D รวมถึง LUT ในกล้องเพื่อให้การเช็กคุณภาพของไฟล์ทำได้ง่ายขึ้นด้วย

GH5s ยังให้ความคล่องตัวในการบันทึกที่มากขึ้น โดยสามารถเปลี่ยนแปลงความถี่ของระบบการบันทึกได้ระหว่าง NTSC (59.94 Hz), PAL (50.00 Hz) หรือ Cine (24.00 Hz) เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานได้ทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอได้โดยไม่มีข้อจำกัดของเวลาอีกด้วย รวมทั้งมีความยืดหยุ่นกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ มีตัวแปลง BNC สำหรับซิงค์การปรับตั้ง time code เมื่อใช้กล้องหลายตัวในการบันทึก, มี LINE input ขนาด 3.5 มม. สำหรับต่อเชื่อมเครื่องบันทึกเสียงภายนอก หรือ XLR Microphone Adapter สำหรับ XLR inputs ที่เสียบบนฮอทชูกล้อง เป็นต้น


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ Exmor CMOS ขนาดฟูลเฟรม 12.2 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ OLED EVF ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.228 ล้านพิกเซล ปรับระดับได้
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 100-102,400
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพต่อวินาที
  • มี NFC และ Wi-Fi ในตัว
  • ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัว 5 แกน

กล้อง Mirrorless ที่มาพร้อม native ISO สูงถึง 102,400 ออกแบบให้ใช้งานวิดีโอในสภาพแสงน้อยๆ ได้อย่างสะดวก โดยบันทึกด้วยคุณภาพ UHD 4K full pixel read-out ความเร็ว 24, 25 และ 30 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:0 และเมื่อบันทึกลงในเครื่องบันทึกภายนอกผ่าน HDMI จะได้เป็น 4:2:2 ความลึกสี 8 bit

จุดเด่นอย่างหนึ่งคือ มีโปรไฟล์สีให้เลือกใช้งานหลายแบบ และมาพร้อม S-log3 ช่วยขยายไดนามิกเรนจ์ให้กว้างถึง 1300% หรือประมาณ 14 สตอป เพื่อการ Grading สีที่นุ่มนวล มีการไล่โทนที่เป็นธรรมชาติ และยังสามารถเลือกใช้ S-Log2 สำหรับการตรวจสอบโทนภาพ เมื่อบันทึกภาพใน Scene ที่มีความเปรียบต่างของแสงมากๆ ช่วยให้ปรับตั้งค่าการเปิดรับแสงได้สะดวกมากขึ้น

A7s II มีฟังก์ชั่นที่ช่วยในการบันทึก time code เมื่อบันทึกภาพจากกล้องหลายๆ ตัวไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังโดดเด่นที่ระบบป้องกันการสั่นไหวในตัวกล้องที่ช่วยให้บันทึกภาพได้คมชัด และต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะบันทึกด้วยการถือกล้องด้วยมือก็ตาม รวมทั้งมีช่องเชื่อมต่อไมโครโฟน และช่องหูฟังสำหรับการใช้งานบันทึกวิดีโอเต็มรูปแบบอีกด้วย


จุดเด่น

  • เซ็นเซอร์ Exmor CMOS ขนาด APS-C
  • ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
  • วิวไฟน์เดอร์ OLED EVF ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล
  • จอมอนิเตอร์ 3.0 นิ้ว ความละเอียด 921,600 พิกเซล ปรับระดับได้ 180 องศา ควบคุมระบบสัมผัส
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K
  • ความไวแสง ISO 100-32000
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 11 ภาพต่อวินาที
  • มี NFC และ Wi-Fi ในตัว

กล้อง Mirrorless รุ่นล่าสุดที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ที่โดดเด่นสำหรับชาว V-logger โดยสะดวกที่จอมอนิเตอร์สามารถพลิกกลับมาบันทึกภาพตัวเองแบบ Selfies รวมทั้งเมื่อตั้งกล้องบันทึกวิดีโอสำหรับบันทึกคลิปต่างๆ อีกด้วย รวมทั้งยังสามารถควบคุมด้วยระบบสัมผัสอีกด้วย อีกหนึ่งจุดเด่นที่ส่งให้ A6400 มีความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้นคือ ระบบโฟกัสแบบ Realtime Eye AF และ Realtime Tracking ที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ และให้ความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย

ส่วนฟีเจอร์วิดีโอนั้น A6400 บันทึกวิดีโอคุณภาพ UHD 4K (3840 x 2160 พิกเซล) full pixel read-out ความเร็ว 24, 25 และ 29.95 เฟรมต่อวินาที แบบ 4:2:2 ความลึกสี 8 bit พร้อม Fast Hybrid AF ที่ช่วยให้ซับเจคต์อยู่ในเฟรมและมีความคมชัดตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวก็ตาม นอกจากนี้ยังมี S-Log2 และ S-Log3 ที่มีความยืดหยุ่นในการบันทึกแสงสี ช่วยให้นำมา Grading ในภายหลังสะดวกมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถบันทึกคุณภาพ Full HD ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที เพื่อนำมาเพลย์ภาพแบบ Slow Motion ได้ด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกโปรไฟล์สีแบบ HLG หรือ Hybrid Log-Gamma รองรับการทำงานโหมด HDR ช่วยให้เปิดชมภาพจากโทรทัศน์ที่รองรับโหมด HDR (HLG) ซึ่งช่วยให้เปิดชมภาพได้สวยงาม และให้สีสันที่สมจริงนั่นเอง

 


อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
FOTOINFO มี LINE@ OFFICIAL แล้ว !!! อย่าลืมแอดไลน์ @FOTOINFO (หรือสแกน QR Code ในภาพนี้)

ขอบคุณครับ

ติดตาม FOTOINFO ได้ทั้งรูปแบบนิตยสาร Free Copy, e-magazine ฟรีดาวน์โหลด และช่องทางอื่นๆออนไลน์ได้ที่
Line@ : @fotoinfo
YouTube : Fotoinfo Channel
Website : fotoinfomag.com
e-magazine : issuu.com/fotoinfomagazine


ติดตามเทคนิค ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ กิจกรรมถ่ายภาพ และสิทธิประโยชน์มากมาย ส่งตรงถึงคุณ ได้ที่นี่ FotoinfoPlus


หรือสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับ Mirrorless ที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

https://test2.fotoinfo.online/mirrorless-world/mirrorless-corner