Knowledge Photography

รู้ก่อนใช้งาน กับ 3 โหมดกันสั่นบนเลนส์

ระบบป้องกันการสั่นไหว เป็นตัวช่วยให้เราสามารถถือกล้องถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติ โดยการใช้มือถือกล้อง ซึ่งค่ายผู้ผลิตก็จะเคลมกันไว้ว่าชดเชยได้ 3-5 สตอป กล้องรุ่นใหม่ๆ อาจจะได้ถึง 6.5 สตอป 
.
ก็ช่วยให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นล่ะครับ ไม่ต้องพกขาตั้งกล้องไปด้วยตลอดเวลา หรือไม่ต้องใช้แฟลชให้อารมณ์ของภาพเปลี่ยนไปด้วย
.
เลนส์หลายๆ รุ่น นอกจากจะมีสวิทช์เปิด-ปิดใช้งานระบบกันสั่นแล้ว ยังมีสวิทช์เลือกโหมดกันสั่นด้วย ไปดูกันครับ ว่าโหมดกันสั่นแต่ละโหมดนั้น แตกต่างกันยังไง และใช้ถ่ายรูปแบบไหนบ้าง

 

ระบบป้องกันการสั่นไหว มีทั้งที่อยู่ในตัวกล้อง และอยู่ในเลนส์ แต่ละแบรนด์จะเรียกแตกต่างกันไป อย่าง Canon เรียก IS หรือ Image Stabilizer , Fujifilm เรียก OIS หรือ Optical Image Stabilizer, Nikon เรียก VR หรือ Vibration Reduction, Panasonic เรียก OIS หรือ Optical Image Stabilizer, Sony เรียก OSS หรือ Optical SteadyShot, Sigma เรียก เรียก OS หรือ Optical Stabilization และ Tamron เรียก VC หรือ Vibration Compensation
.
ประโยชน์ของระบบกันสั่น ทั้งในตัวกล้องและบนเลนส์คือ ช่วยชดเชยความเร็วชัตเตอร์ให้ใช้งานได้ต่ำกว่าปกติ เมื่อถ่ายรูปในสภาพแสงน้อยๆ, เมื่อปรับรูรับแสงแคบๆ เพื่อต้องการชัดลึกมากๆ หรือเมื่อถ่ายรูปที่ช่วงเทเลโฟโต้สูงๆ
.
ตัวอย่างเช่น ถ้าใช้เลนส์ 50 มม. และชดเชยกันสั่นได้ 3 สตอป ซึ่งในการตั้งกล้องปกติจะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ ไม่ต่ำกว่า 1/50 วินาที แต่เมื่อมีระบบกันสั่นที่ชดเชยได้ 3 สตอป ก็เลยช่วยให้ถือกล้องและถ่ายรูปได้คมชัด ที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำถึง 1/6 วินาที นั่นเองครับ
.
แต่ทั้งนี้ ก็ต้องคำนึงถึงรูปที่ต้องการด้วยนะครับ ถ้าเป็นการถ่ายซับเจกต์ที่มีการเคลื่อนไหว ถึงแม้จะใช้ความเร็วชัตเตอร์ได้ต่ำกว่าปกติ แต่ก็ไม่เหมาะอยู่ดีล่ะครับ รวมทั้งถึงจะมีระบบกันสั่น แต่ก็ต้องถือกล้องให้นิ่งๆ ที่สุดด้วยล่ะครับ

 

โหมด 1 สำหรับใช้งานทั่วๆไป
บางแบรนด์ อย่างนิคอน จะใช้ Normal mode เป็นโหมดที่กล้องจะคำนวณการสั่นไหวทั้งในแนวระนาบ และแนวตั้ง เหมาะทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และบันทึกวิดีโอ
.
ระบบกันสั่นจะเริ่มทำงานเมื่อแตะปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าหากใช้งานเลนส์ช่วงเทเลโฟโต้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนจากวิวไฟน์เดอร์ ว่าภาพที่เห็นจะมีความนิ่งขึ้น

 

โหมด 2 สำหรับการถ่ายภาพกีฬาแนวราบ หรือแพนกล้อง
นิคอนจะเรียกเป็น Sport Mode โดยระบบจะคำนวณการสั่นไหวเฉพาะในแนวตั้งเท่านั้น เพื่อให้การแพนกล้องตามซับเจกต์ที่มีการเคลื่อนไหว ทำได้อย่างราบรื่น
.
ระบบจะลดการสั่นไหวเฉพาะในแนวตั้ง ไม่ทำงานกับแนวนอน (ซึ่งจะมีการเคลื่อนกล้องจากการแพน) โดยจะให้เอฟเฟคต์ของการแพนกล้องเมื่อใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำตามปกติ แต่จะช่วยให้มีโอกาสได้ภาพคมชัดจากการแพนมากขึ้น

 

โหมด 3 จะทำงานตอนลั่นชัตเตอร์เท่านั้น
เป็นโหมดกันสั่นที่มีอยู่ในเลนส์ Canon และ Tamron มีการทำงานคล้ายๆ กับโหมด 1 ทุกอย่าง แต่จะทำงานในตอนที่กดชัตเตอร์ถ่ายรูปเท่านั้น โดยถ้ามองผ่านวิวไฟน์เดอร์ จะไม่รู้สึกไม่รู้สึกถึงการทำงานของระบบกันสั่น เหมือนโหมด 1
.
โหมดนี้จะช่วยประหยัดพลังงานของกล้องมากขึ้นและเหมาะสำหรับถ่ายภาพนิ่งเท่านั้นครับ

 

ใช้งานบนขาตั้งกล้อง ต้องปิดระบบกันสั่น
การใช้งานระบบกันสั่น สามารถเปิดใช้งานได้ตลอด แต่ถ้าหากความเร็วชัตเตอร์สูงพอ จะปิดระบบกันสั่นไปก็ได้ เพราะจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปด้วยส่วนหนึ่ง
.
แต่ถ้าติดกล้องบนขาตั้งกล้อง จะต้องปิดระบบกันสั่น เนื่องจากระบบจะทำงานตลอดเวลา จนอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด ทำให้ได้ภาพเบลอๆ แทนได้ครับ
.
ส่วนการใช้เลนส์ Super Telephoto ที่มีน้ำหนักมาก และมีโอกาสสั่นไหวสูง ถึงแม้จะติดบนขาตั้งกล้องแล้วก็ตาม จะเปิดใช้งานตลอดเวลาก็ได้เช่นกันครับ