Shooting Destination

ท่องเที่ยววิถีไทย : ล่องเรือเหนือเขื่อน ไปเยือน 3 น้ำตก

เขื่อนขุนด่านปราการชล เดิมชื่อเขื่อนคลองท่าด่าน เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยมีความยาวกว่า 2,658 เมตร สูง 92 เมตร สร้างทับแนวฝายคลองท่าด่านเดิมอีกที เป็นเขื่อนที่รับนํ้าที่ไหลสายนํ้าตกเหวนรก เขาใหญ่ เป็นเขื่อนที่พัฒนาขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อกักเก็บนํ้าไว้ใช้ในหน้าแล้ง รวมทั้งป้องกันนํ้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรในฤดูนํ้าหลากนั่นเอง

เราเดินทางไปเขื่อนขุนด่านปราการชลด้วยรถยนต์ New Toyota Camry 2.0 G โฉมใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมขุมพลัง 4 สูบ รหัส 6AR-FBS ความจุ 2.0 ลิตร VVT-iW ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่สามารถปรับชิฟท์เองแบบแมนนวลได้ด้วย

New Toyota Camry 2.0 G ปรับรูปโฉมใหม่ทั้งหมด ภายใต้โครงสร้างตัวถังมาตรฐาน TNGA ที่ช่วยผสานยนตรกรรมกับผู้ขับขี่ให้ไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ตัวรถออกแบบได้สวยงาม และมีความ Sport อยู่ในตัวจากเส้นสายรอบคัน และกระจังหน้าขนาดใหญ่ โดดเด่นสะดุดตา และไม่เพียงเน้นรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตปราดเปรียวเท่านั้น แต่ยังคงให้พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่โอ่โถง นั่งได้อย่างสบายเช่นเดิม ภายในห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบให้ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดดเด่นที่แผงหน้าปัดรูปทรง Y-Shaped พร้อมจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 7 นิ้ว จุดหนึ่งที่ผมชื่นชอบคือการออกแบบเบาะนั่ง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังออกแบบให้ดูสปอร์ตและกระชับกับลำตัว เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

New Toyota Camry 2.0 G มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมากมายที่ช่วยให้ผมขับรถได้อย่างไร้กังวล อาทิ ระบบแจ้งเตือนการขับคร่อมเลน ที่จะส่งเสียงปี๊บๆ เตือนเมื่อรถมีการเปลี่ยนเลนส์ หรือขับคร่อมเส้นแบ่งเลนโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว และระบบเสียงพร้อมไฟแจ้งเตือนที่กระจกมองข้าง เมื่อมีรถคันอื่นขับเข้ามาในระยะใกล้ รวมทั้งการแจ้งเตือนในมุมอับ หรือมุมที่เรามองไม่เห็นในขณะเลี้ยวจอด ระบบก็จะแจ้งเตือนเมื่อระยะระหว่างตัวรถกับสิ่งอื่นๆ เช่น ริมฟุตบาท หรือกอต้นไม้อยู่ใกล้ชิดเกินไปด้วย นอกเหนือไปจากกล้องมองหลัง ที่แสดงภาพจากมุมมองด้านหลังรถ ขณะที่เข้าเกียร์ถอยหลังด้วย พร้อมด้วยเส้นนำเพื่อให้กะระยะได้ง่ายขึ้นด้วย

ผมและทีมงานใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก เมื่อผ่านช่วงแยกองครักษ์มาแล้ว ถนนค่อนข้างโล่ง ผมจึงลองใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control ช่วยให้ไม่ต้องแตะคันเร่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากลดความเมื่อยล้าที่จะต้องขับรถทางไกลๆ แล้ว ยังช่วยให้ประหยัดนํ้ามันจากการใช้ความเร็วคงที่สม่ำเสมออีกด้วย

ช่วงล่างของ New Toyota Camry 2.0 G ปรับเซ็ตมาได้อย่างนุ่มนวล ตามรูปแบบรถยนต์นั่งระดับพรีเมี่ยม ช่วงโค้งหลายๆ ครั้ง รับรู้ได้ถึงการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม และยังคงให้ความนุ่มนวลสำหรับผู้โดยสารอีกด้วย พวงมาลัยไฟฟ้าตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน เมื่อยามต้องขับขี่ในเส้นทางที่มีการจราจรคับคั่งอย่างในตัวเมืองใหญ่ หรือเมื่อต้องลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆ หรือซอยแคบๆ ก็ตาม ซึ่งผมเองค่อนข้างชอบ เพราะถึงแม้ว่าตัวรถจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่การขับขี่ก็สะดวกง่ายดายอยู่มากทีเดียว

ผมและทีมงานมีแพลนที่จะมาล่องเรือชมนํ้าตก 3 แห่ง ที่อยู่เหนือเขื่อนขึ้นไป ซึ่งจะต้องล่องเรือย้อนขึ้นไปยังแนวเขาของเทือกเขาใหญ่ โดยนํ้าตกแรกที่เราไปเยือนคือ นํ้าตกผางามงอน ซึ่งเป็นนํ้าตกที่อยู่ไกลจากท่าเรือมากที่สุด อยู่เกือบๆ สุดแนวริมนํ้าของพื้นที่เหนือเขื่อนนั่นเอง และมีขนาดเล็กที่จะต้องเดินขึ้นแนวเขาไปประมาณ 100 เมตรจากริมนํ้า และเป็นช่วงนํ้าในเขื่อนค่อนข้างน้อย เพราะปล่อยนํ้าออกไปทำการเกษตรด้วย และเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูแล้งด้วยนั่นเองครับ นํ้าในนํ้าตกก็มีนํ้าน้อยมากทีเดียว และเราก็ใช้เวลาถ่ายภาพกันชั่วครู่เดียวเท่านั้น ก็กลับลงมาและเดินทางต่อ

บรรยากาศเหนือเขื่อน และท่าลงเรือหางยาวล่องชมเขื่อน ในฤดูน้ำน้อย หรือเมื่อเขื่อนพร่องน้ำเยอะ จะต้องเดินลงไปเยอะพอสมควร

บรรยากาศระหว่างล่องเรือ

นํ้าตกแห่งที่สองคือ นํ้าตกคลองคราม เราแล่นเรือย้อนกลับมาทางเดิมอีกเล็กน้อย นํ้าตกคลองคราม มีนํ้าค่อนข้างน้อยเช่นเดียวกัน แต่ยังมากกว่านํ้าตกผางามงอนอยู่พอสมควร ต้องเดินจากตลิ่งที่จอดเรือไปประมาณ 200 เมตร เส้นทางเดินค่อนข้างเป็นเลนและลื่นอยู่พอสมควร เนื่องจากเขื่อนเพิ่งจะพร่องนํ้า ทำให้ระดับนํ้าลดลงไปมากโขอยู่ ดินเลนที่เพิ่งจะพ้นนํ้าจึงยังไม่แข็งตัว แต่ก็เดินไม่ลำบากเท่าไหร่นักครับ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานกว่าที่แรกพอสมควร ตามโขดหินริมนํ้าตก ยังมีตะใคร่นํ้าและมอสเกาะอยู่บ้าง มีมดและแมลงออกเดินหาอาหารอยู่บนมอส และมีจิ้งเหลนมาคอยจับมด แมลงเป็นอาหารอีกที นั่นคือเป็นการปรับสมดุลโดยธรรมชาติอย่างแท้จริงครับ

น้ำตกคลองคราม ในวันน้ำน้อย

“พี่ มาดูตรงนี้” น้องทีมงานที่เดินกลับลงมาก่อน กวักมือเรียกให้เดินไปหา ข้างๆ ทางที่จะลงไปยังที่จอดเรือ “รอยเท้าช้างครับ” น้องทีมงานชี้มือไปยังจุดที่เป็นหลุมยุบลงไปหลายหลุม เป็นรอยเท้าช้างที่เดินออกมาหากินนั่นเองครับ ซึ่งน่าจะมาตั้งแต่หลายวันก่อนหน้าที่ผมและทีมงานจะเดินทางมาท่องเที่ยว เนื่องจากในหลุมรอยเท้าเริ่มจะทีหญ้าแทงยอดออกมาบ้างนั่นเอง อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนแรกนั่นแหละครับ ว่าพื้นที่เหนือเขื่อนเป็นแนวเทือกเขาใหญ่ที่ยังมีช้างป่าอยู่มากพอสมควร ดังนั้นจึงอาจจะมีช้างป่าที่เดินออกมาหากินริมเขื่อนด้วยนั่นเองครับ

เรือจะจอดส่งริมตลิ่ง ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมน้ำตก ซึ่งในฤดูน้ำหลากที่มีปริมาณน้ำสูง สามารถเข้าไปใกล้ๆ ตัวน้ำตกได้

เรากลับมาลงเรือเพื่อเดินทางไปยังนํ้าตกแห่งสุดท้าย คือ นํ้าตกช่องลม ซึ่งเป็นนํ้าตกที่อยู่ใกล้กับสันเขื่อนมากที่สุด ซึ่งคนเรือจะพาเราล่องไปยังนํ้าตกที่อยู่ไกลที่สุด ก่อนที่จะวนกลับมาล่ะครับ ซึ่งในช่วงหน้าแล้ง ที่นํ้าในเขื่อนมีน้อย การเดินขึ้นไปยังตัวนํ้าตกจึงต้องมีระยะทางที่ไกลกว่าฤดูนํ้าหลาก ที่บางครั้งลงจากเรือก็ถึงตัวนํ้าตกเลยก็ว่าได้ครับ

ธารน้ำเล็กๆ ที่ไหลมาจากน้ำตกช่องลม

น้ำตกช่องลมที่มีแอ่งน้ำใหญ่น้อยมากมายให้ลงเล่นน้ำได้

นํ้าตกช่องลมมีปริมาณนํ้าพอๆ กับนํ้าตกคลองครามล่ะครับ และมีแอ่งนํ้าขังหลายๆ แอ่งให้ลงเล่นนํ้าได้ ตอนที่เราเดินขึ้นไปยังตัวนํ้าตกนั้น มีชาวต่างชาติครอบครัวใหญ่ เดินกลับลงมา ตัวเปียกปอนทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ซึ่งก็คาดว่าลงเล่นนํ้าตกกันมานั่นเอง ซึ่งผมก็อยากจะกระโดดลงไปบ้างเหมือนกันครับ ก็นํ้าใสแจ๋วขนาดนั้น จริงๆ อยากกระโดดลงนํ้า ตั้งแต่ไปถ่ายภาพรถที่ด้านล่างเขื่อนแล้วล่ะครับ ..แฮ่!!

ถึงนํ้าตกจะมีนํ้าน้อย แต่เราก็ยังคงถ่ายภาพให้สายนํ้าดูพลิ้วไหวได้ โดยปรับสปีดชัตเตอร์ให้ตํ่าลงประมาณ 1 วินาที หรือนานกว่านั้น และใช้ ISO ตํ่าสุดด้วย ถ้ามีฟิลเตอร์ C-PL หรือ ND ก็จะช่วยกรองแสงที่จะเข้าไปสู่กล้อง ทำให้ได้ความเร็วชัตเตอร์ที่ตํ่าลงจากปกติอีกด้วย นอกจากนี้ ฟิลเตอร์ C-PL ยังช่วยให้ตัดแสงสะท้อนต่างๆ ตามผิวนํ้า, โขดหิน หรือใบไม้ ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันอิ่มตัวอีกด้วยครับ

เรือบริการหนึ่งลำ รองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 7 คน ราคาเช่าเหมาลำ 1500 บาท

สำหรับใครที่อยากจะไปเที่ยวชม 3 นํ้าตกเหนือเขื่อน ก็สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่เขื่อนเลยครับ เป็นเรือหางยาวเช่าเหมาลำ ลำละ 1500 บาท ลำนึงนั่งได้หลายคน มีหลังคากันแดดกันร้อนด้วย รอบหนึ่ง 3 นํ้าตก ใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง จะติดของกินเอาไว้กินไประหว่างเดินทางก็ได้ครับ ผมก็จัดข้าวเหนียวไก่ย่างที่หาซื้อได้ระหว่างเดินทางมาเขื่อน แล้วก็ทานไปด้วยชมวิวสองข้างเรือไปด้วย ความอร่อยเพิ่มขึ้น 30% ครับ อิ อิ อิ ..สำหรับสายนก ก็มีทั้งกานํ้า กระแตแต้แว๊ด เผลอๆ ก็อาจจะเจออ้ายงั่วลอยคออยู่กลางนํ้าก็ได้ ยังไงก็ติดเลนส์ยาวๆ ไปด้วยก็ไม่เสียหลายครับ

ตามน้ำตกยังมีมอสและตะใคร่น้ำขึ้นอยู่บ้าง และเป็นแหล่งหากินของสัตว์เล็กๆ อย่างจิ้งเหลนด้วย

แดดช่วงบ่ายโมงร้อนแรงอยู่พอสมควร รวมทั้งรถที่จอดตากแดดเปรี้ยงอยู่กว่า 4 ชั่วโมง แต่ระบบปรับอากาศของรถยนต์ New Toyota Camry 2.0 G ช่วยขับไล่ความร้อนให้หายออกไปจากตัวรถอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นข้อดีที่มีอยู่ในรถยนต์โตโยต้าหลายๆ รุ่นที่ผมและทีมงานเคยได้สัมผัสมา นอกจากนี้ยังเป็นระบบ Dual จะเลือกปรับอากาศรวมทั้งฝั่งคนขับ และที่นั่งด้านข้างคนขับ หรือแยกโซนปรับอากาศออกจากกัน ทำให้ปรับอุณหภูมิได้อย่างอิสระ รวมทั้งมีช่องระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังด้วยเช่นกัน

ทริปหน้า ผมและทีมงานจะเดินทางไปยังจังหวัดสระแก้ว เพื่อเยี่ยมชมสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นั่นคือการยุบตัวของผิวดิน และการกัดกร่อนของลมและนํ้า ที่ยังคงมีบางส่วนที่ไม่ยุบและยังคงหยัดยืนอยู่ ทำให้กลายเป็นเสาและแนวดินรูปทรงแปลกตา ที่ถูกเรียกว่า “ละลุ” จะพิเศษและสวยงามขนาดไหน ติดตามได้ในฉบับหน้าครับ

..สวัสดีครับ…

การเดินทางไปยังเขื่อนขุนด่านปราการชล

จากรังสิต ให้ใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก หมายเลข 305 จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกองครักษ์ แล้วขับตรงตามเส้นทางไปเรื่อยๆ จนถึงตัวเมืองนครนายก ขับผ่านตัวเมืองนครนายก แล้วเข้าไปยังเส้นทางหมายเลข 3049 เมื่อถึงใกล้ๆ นํ้าตกนางรอง ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 4016 ตรงไปยังเขื่อนขุนด่านปราการชล รวมระยะทางจากตัวเมืองนครนายกประมาณ 20 กิโลเมตร

เรื่อง / ภาพ : กองบรรณาธิการ
ขอขอบคุณ… บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด


อย่าลืมกด Like เพจ FOTOINFO เพื่อติดตามและอัพเดทข่าวสารใหม่ๆ อย่างทันท่วงทีกันนะคร๊าบ ^^


หากเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
FOTOINFO มี LINE@ OFFICIAL แล้ว !!! อย่าลืมแอดไลน์ @FOTOINFO (หรือสแกน QR Code ในภาพนี้)

ขอบคุณครับ

ติดตาม FOTOINFO ได้ทั้งรูปแบบนิตยสาร Free Copy, e-magazine ฟรีดาวน์โหลด และช่องทางอื่นๆออนไลน์ได้ที่ ?
Line@ : @fotoinfo
YouTube : Fotoinfo Channel
Website : fotoinfomag.com
e-magazine : issuu.com/fotoinfomagazine


ติดตามเทคนิค ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ กิจกรรมถ่ายภาพ และสิทธิประโยชน์มากมาย ส่งตรงถึงคุณ ได้ที่นี่ FotoinfoPlus

ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยววิถีไทยที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

https://test2.fotoinfo.online/travels/shooting-destination/